แม่ร้อง ”สายไหมต้องรอด“ ลูกอายุ 14 ถูกแก๊งเงินกู้ไล่ยิงกลางชุมชน

แม่พาลูกชายวัย 14 ปี ร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกแก๊งเงินกู้ไล่ยิงกลางชุมชน คดีไม่คืบ

วันนี้(มิ.ย. 68) แม่เล็ก อายุ 43 ปี พาลูกชายอายุ 14 ปี และหลานชายอีก 2 คน เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังกลุ่มของลูกชายและหลานถูกแก๊งปล่อยเงินกู้ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลางชุมชนย่านวัดประดู่ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา แจ้งความกับตำรวจ สน.เตาปูน กลับบ่ายเบี่ยงยังไม่รับแจ้งความอ้างว่าต้องรอร้อยเวรคนเดิมที่เคยทำคดีให้ ทำให้ครอบครัวกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกหลาน เพราะยังคงต้องใช้เส้นทางซอยวัดประดู่ในการกลับบ้าน

โดยนายไตเติ้ล และนายตะวัน หลานชายของแม่เล็ก เล่าว่า จุดเริ่มต้นควาขัดแย้ง มาจากการที่เพื่อนสนิทของนายไตเติ้ล ถูกวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาหาเรื่องชกต่อยถึงหน้าบ้าน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี 3 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะปรี่เข้ามารุมต่อยเพื่อนสนิทของนายไตเติ้ล ทำให้เพื่อนอีกคน พยายามเข้ามาช่วย ก่อนที่เหตุการณ์จะชุลมุน แต่กลุ่มคู่กรณีสู้ไม่ได้ จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยปมขัดแย้งที่บุกมาต่อยกันถึงหน้าบ้าน เกิดจากต่างฝ่ายต่างเบิ้ลรถจักรยานยนต์ใส่กัน หลังเกิดเหตุ ครอบครัวก็ได้ไปแจ้งความที่ สน.เตาปูน ไว้แล้ว แต่เมื่อกลุ่มคู่กรณีทราบ ก็ข่มขู่ว่า “อย่าให้เจอ ถ้าเจอกูจะเล่น”

จนกระทั่งวันที่ 30 พฤษภาคม นายไตเติ้ลไปเจอกลุ่มคู่กรณี จึงเข้าไปถามว่ามีปัญหาอะไรกับเพื่อนสนิทของตนเอง เหตุใดจึงไม่ยอมจบ แต่อีกฝ่ายกลับบอกบอกว่าจบไปแล้ว แต่ไม่ทันไร ตกดึกคืนนั้นระหว่างที่นายไตเติ้ลรวมถึงลูกชายและเพื่อนๆ กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ผ่านเส้นทางซอยวัดประดู่ ก็ถูกกลุ่มคู่กรณียกพวกมาไล่ฟันรอบแรกตอนประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ซึ่งตำรวจมาเคลียร์แล้วแต่ไม่จบ ต่อมาคู่กรณีก็ยกพวกมาอีก ตอนประมาณเที่ยงคืนเศษ โดยมีหัวโจกซึ่งเป็นผู้ปกครองของคู่กรณี ถือปืนมาไล่ยิงด้วย ก่อนที่เหตุการณ์จะชุลมุนทำให้เด็กชายแมนยู อายุ 14 ปี ลูกชายแม่เล็กต้องวิ่งหนีจนล้มลง ได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีไม่มีใครถูกยิง

ด้านแม่เล็กบอกว่า หลังเกิดเหตุครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ตนเองได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ เพราะยังไม่เห็นคลิปเหตุการณ์ ต่อมาเห็นคลิปเหตุการณ์ไล่ยิงวันที่ 30 พฤษภาคม จึงจะไปแจ้งความเพิ่มในข้อหาพยายามฆ่า แต่ตำรวจ สน.เตาปูน นัดให้กลับมาอีกครั้งในวันที่ 3 มิถุนายน โดยให้เหตุผลว่าร้อยเวรที่รับแจ้งความครั้งแรกยังไม่เข้าเวร และไม่ได้ดำเนินการใดๆ หนำซ้ำยังให้ตนเองไปหาคลิปวงจรปิดเอง ทำให้ตนเองตั้งคำถามว่าเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ เหตุใดตำรวจจึงไม่ดำเนินการทันที

นอกจากนี้แม่เล็ก ยังกล่าวเพิ่มอีกว่าบ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาชีพปล่อยเงินกู้ และมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลในชุมชน ไม่เกรงกลัวกฎหมายและทุกวันนี้ก็ยังมีชาวบ้านเห็นกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีนั่งโชว์อาวุธปืนอยู่ในซอย ทำให้กังวลเรื่องความปลอดภัยและอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีอย่างจริงจัง ก่อนจะเกิดเหตุซ้ำที่อาจเลวร้ายยิ่งขึ้น

ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีหลักฐานชัดเจนจากคลิปวงจรปิด เป็นกรณีที่ผู้ใหญ่ใช้อาวุธปืนยิงเด็กกลางชุมชน ซึ่งไม่อาจยอมรับได้ พร้อมเรียกร้องให้ผู้กำกับการ สน.เตาปูน เร่งออกหมายค้นบ้านผู้ก่อเหตุ และดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด เพราะระหว่างนี้คู่กรณีอาจเอาอาวุธปืนมาก่อเหตุไล่ยิงอีก และเพราะคดีพยายามฆ่าไม่ควรปล่อยให้ล่าช้า