Home
|
อาชญากรรม

ตบทรัพย์กว่าครึ่งล้าน หลอกฝากลูกหลานเป็น นักการทูต

Featured Image
ผู้เสียหาย ร้องกองปราบ ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างเป็น สว. หลอกฝากลูกหลานเข้าเป็น นักการทูต ตบทรัพย์กว่าครึ่งล้าน ซ้ำยังพบว่า ทำงานกับวุฒิสภา ชุดปัจจุบัน

 

วันนี้  (30 พ.ค 68) เวลา12.00 น. ที่ ริมถนนพหลโยธิน หน้าแดนเนรมิตเก่า เขตจตุจักร กทม. นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พร้อม นายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พา นายสมชาย(นามสมมุติ) อายุ 45 ปี รับมอบอำนาจจากผู้ปกครองหลานชาย เข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ พงส.กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกมิจฉาชีพสองผัวเมียแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หลอกลวงว่าสามารถฝากบุตรหลานเข้าทำงานเป็นนักการทูตได้ โดยเรียกรับเงินไปกว่า 600,000 บาท

 

นายสมชาย(นามสมมุติ) อายุ 45 ปีเล่าว่า ทางด้านของคุณอาตนได้ไปกินเลี้ยงตามประสานักธุรกิจ ซึ่งมีชายคนหนึ่งและภรรยามาร่วมงานและอ้างว่า เป็น สว. หรือสมาชิกวุฒิสภา ชุดปัจจุบัน และยังอ้างอีกว่าเป็นหลานชายแท้ๆ ของเขา เป็น บิ๊ก ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทางชายคนดังกล่าวจึงได้สอบถามว่าทางลูกของอาตนกำลังทำอาชีพอะไรอยู่ ทางอาตนจึงตอบไปว่ากำลังจะสอบเข้าเป็นนักการทูต ชายคนดังกล่าวและภรรยา จึงได้แอบอ้างว่าถ้าเกิดไม่รับฝาก ก็ไม่สามารถเข้าไปเป็นนักการทูตได้ ถ้าไม่ใช้เส้นสาย และเขาจะช่วยจัดการให้ พร้อมจะช่วยเหลือ หลังจากนั้นเขาก็โทรมาหาทางด้านของอาตน อีกครั้ง เพื่อมาย้ำว่าต้องฝากและใช้เส้นสายเท่านั้น และอ้างว่าเขาได้ไปคุยกับผู้ใหญ่ เรียบร้อยแล้ว และยังบอกอีกว่าให้โอนเงินให้กับเขา ถ้าเกิดไม่โอนให้ จะขึ้นแบล็คลิส ลูกชายของคุณอา ทำให้ไม่สามารถสอบ เข้าเป็นนักการทูตได้อีก

 

ทางด้านของอาตน จึง กลัวว่า ลูกชายจะมีปัญหา จึงได้โอนเงิน ไปให้บุคคลดังกล่าว จำนวน 600,000 บาท ซ้ำยังบอกอีกว่าที่จริงค่าใช้จ่ายทั้งหมดต้อง 1 ล้านบาท แต่เขาจะออกให้อีก 400,000 บาท พอได้เป็นนักการทูตเรียบร้อยแล้วค่อยเอาเงิน 400,000 บาทมาคืน พอผลปรากฏออกมาว่าลูกชายของคุณอาไม่ผ่านผลการคัดเลือก ในการสอบเข้าเป็นนักการทูต จึงได้โทรไปสอบถามบุคคลดังกล่าวว่าทำไมลูกชายถึงไม่ผ่านการคัดเลือกสอบเป็นนักการทูต เพราะตกลงกันแล้วว่าจะช่วยเหลือ

 

โดยเขาอ้างว่า เพื่อนเขาที่เป็น เอกอัครราชทูต เขาลืมฝากให้ ทางด้านของอาจึงได้บอกว่าเดี๋ยวเขาไปทวงเงินกับเอกอัครราชทูตคนนั้น เขาบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวเขารับผิดชอบเอง หลังจากนั้นเขาก็อ้างว่าจะให้บัตรติดตาม สมาชิกวุฒิสภา แต่ว่า ต้องมีการจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งทางด้านของอาตนก็ได้ปฏิเสธไป แล้วบอกว่าไม่ได้อยากได้บัตรสมาชิกวุฒิสภาเพียงแค่อยากได้เงินทั้งหมดคืน และยังมีการข่มขู่มาว่าถ้าเกิดไม่รับบัตรสมาชิกวุฒิสภาไป ทางด้านของลูกชายก็จะไม่สามารถสมัครสอบ อะไรได้อีก และยังข่มขู่อีกว่าธุรกิจที่ทำอยู่อาจจะมีปัญหาเพราะว่าทางผู้ใหญ่เขาอาจจะไม่พอใจ ยังข่มขู่อีกว่าถ้ามีคดีติดตัว จะมีการขุดให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา

 

และจากการสืบหาข้อมูลของตัวผู้ชายคนดังกล่าว พบว่า เป็นประธานคณะทำงานของสว. วุฒิสภาในชุดปัจจุบันนี้ ส่วนทางด้านของภรรยาเขาเป็น ที่ปรึกษา และอนุกรรมาธิการ ชุดหนึ่งของวุฒิสภาในปัจจุบัน เพราะมีการทวงถามไปเรื่อยๆก็มีการอ้างชื่อผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ ทางด้านของอาตนจึงรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับกองบังคับการปราบปรามในวันนี้

 

หลังจาก เปิดเผยเรื่องราวให้ผู้สื่อข่าวฟัง แล้ว จ่าคิงส์ และทนายเจส ได้พาอาของผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพข้อหาฉ้อโกงต่อไป เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ ตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนนัดหมายให้ตัวหลานชายกับผู้ปกครองมาให้ปากคำต่อไป

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube