“2ส.” ตัวแปรเปลี่ยนเกม “คดีฮั้วสว.สีน้ำเงิน”
คดีฮั้วเลือกตั้งสว.” ที่มี สว.ภูมิใจไทย เป็นเป้าใหญ่ที่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอน คณะไต่สวนกกต. กับ DSI ชุดที่26 ออกหมายเรียกมา 3 ล็อต ตั้งแต่สว.ระดับ คีย์แมน, ประธาน, รองประธาน 55 คน ตามมาด้วย 10 คนการเมืองที่เชื่อมโยงสังกัดพรรคภูมิใจไทย จนมาถึงอีก 24 สว.อีสานใต้ แต่ที่เรื่องนี้ทำให้ ผู้คนในภูมิใจไทย ตั้งแต่หัวหน้าพรรคไปจนถึงสมาชิก ออกอาการเดือดพล่านไฟลุกประกาศฟ้องกราวรูดและถึงขนาด “อนุทิน ชาญวีรกูล” เปรยดังเบื่ออยากหนีไปบวช กับ แอ๊คชั่นของนักร้องรุ่นใหญ่ อย่าง “ณัฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินผู้เคยยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกลมาแล้ว
21 พฤษภาคม 2568 ณัฐพร ที่นอกจากไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยยังทิ้งทุ่นระเบิด ไว้กลางวงนักข่าว นอกจากจะพาดพิงคน ในครอบครัว อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” และ “กรุณา ชิดชอบ” แล้ว ยังมีการปูดข้อมูลว่ามี 2 ส. ที่อยู่เหนือไปกว่าผู้นำจิตวิญญาณภูมิใจไทย อย่าง เนวิน ชิดชอบ หลังวันก่อน อนุทิน ชาญวีรกุล ที่พึ่งโต้กลับ กุสุมาลวตี ศิริโกมุท ไป ที่ไปร้องทั้งยุบพรรคตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ที่ปฏิบัติการ “แมวไม่กลัวหนู” เชื่อมโยงแกนนำพรรคภูมิใจไทยตั้งแต่อนุทินถึง ไชยชนก ชิดชอบ เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วเลือกตั้งสว.อย่างไร
ณัฐพร อ้างว่า การตรวจสอบ “คดีฮั้ว สว.” ตัวเองกลัวอยู่2คน ที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนไป คนหนึ่งคือ “พลเอก ส.” อีกคนคือ “นาย ส.” โดยบอกว่าหลังจากนี้ ตัวเองกำลังรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วนแล้วหลังจากนั้นจะออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอีกครั้ง ย้ำว่ากระบวนการยุติธรรมที่ร้องมา ไม่เป็นผลส่วนหนึ่งก็เกิดมาจากสองคนนี้เพราะว่ามีอำนาจสั่งองค์กรอิสระ ได้โดยเชื่อว่าตัวท่านเองก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร พร้อมขอว่า อย่าทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียไปมากกว่านี้เลย ปม” “2ส.”นี้ ทำให้อนุทินออกมา ตอบโต้ท้าให้ณัฐพรเปิดชื่อ “2ส.” โดยบอกว่า ผู้ที่ต้องปกป้องพรรคภูมิใจสุดชีวิต มีเพียง “อ.” เดียวเท่านั้น ไม่มีอักษรอื่น เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้รู้จักกับ ส.นี้หรือไม่นายอนุทิน บอกว่ารู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่รู้จักส่วนตัว ไม่เคยพูดคุยและรู้ว่ามาเป็นที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทย ส่วนการมายื่นยุบพรรคภูมิใจไทยจะเป็นความแค้นส่วนตัวหรือไม่นั้น ทุกวันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น ไม่มีอะไรเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ เสียเวลาประชาชนและเสียโอกาสประเทศชาติ
โดยนายอนุทินมองว่ามีความพยายามที่จะทำลายพรรคภูมิใจไทยเป็นเกมทางการเมืองและคนที่เดือดร้อนมีไม่กี่คน เป็นการเดือดร้อนส่วนตัว ไม่ได้เดือดร้อนเพื่อประชาชน ทำความดีเถอะ ความดีจะคุ้มครองเอง ไม่ต้องไปกังวล ว่าอะไรจะมาคุ้มครอง คนที่คิดว่าตั้งคนนี้เองได้ไม่มีหรอก ลองทำชั่วคนนั้นคือคนทำร้ายเราประวัติศาสตร์ก็โชว์ให้เห็นกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คนใหญ่คนโตที่มีปัญหา ผู้มีอำนาจที่มีปัญหาจากลูกน้องคนสนิททั้งนั้น อย่าไปคิดเลย ทำงานให้ ส่วนที่กรณีที่ถูกโยงว่าเป็นนิติสงคราม 2 สีระหว่างแดงกับน้ำเงิน ว่าให้เพิ่มสีขาวอีกสีหนึ่ง แดง ขาว น้ำเงิน จะได้เป็นประเทศไทย
ขณะที่“เทพไท เสนพงศ์” วิเคราะห์ผ่าน Facebook ว่า ความอ่อนล้าของ “ระบอบทักษิณ” ยุคนี้เพราะไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จทำให้รัฐบาลเพื่อไทยทำอะไรไมได้ดั่งใจ พรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทยขี่คอตลอด ยิ่งมีคอนเนคชั่นสว.สีน้ำเงิน ยิ่งทำให้ลำบากจึงต้องการแชร์อำนาจเพราะขณะนี้ภูมิใจไทยคุมสมาชิกวุฒิสภา กินรวบอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจขององค์กรอิสระ ยิ่งยุคนี้องค์กรอิสระ มีบทบาทเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้มากกว่าอำนาจอื่น มากกว่าอำนาจนอกระบบ อำนาจกองทัพด้วยซ้ำไปและยิ่งในยุคนิติสงครามเกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ก็เกิดจากการดำเนินการจัดการขององค์กรอิสระทั้งสิ้น
หากภูมิใจไทยสามารถควบคุมส.ว.และส่งผลถึงองค์กรอิสระอย่าง กกต. ปปช. ศาลรัฐธรรมนูญ คตง. หรือองค์กรอื่น ๆ ที่มาจากการเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา ก็ทำให้พรรคภูมิใจไทยสามารถใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซง และควบคุมสถานการณ์ได้ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยต้องการที่แชร์อำนาจด้วย เมื่อไม่สามารถแชร์อำนาจทางการเมือง กับพรรคภูมิใจไทยได้ ก็จำเป็นต้องใช้อำนาจผ่านดีเอสไอ ดำเนินคดี เปิดโปงข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อต่อรองให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หวังให้พรรคภูมิใจไทยแชร์อำนาจกับพรรคเพื่อไทยด้วยสุดท้ายของ “คดีฮั้วส.ว.” จะจบลงได้ถ้า “ฮั้วอำนาจ”กันลงตัว เคลียร์ปัญหากันได้ แชร์อำนาจกันได้ ผลประโยชน์แบ่งกันได้ ทุกอย่างก็จบได้ เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการใด ๆ เลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
