“ประเสริฐ”กำชับอีสานตอนกลางเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน
“ประเสริฐ”ลุยตรวจสถานการณ์น้ำภาคอีสานตอนกลาง พร้อมกำชับหน่วยงานเร่งเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน เก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วง และหน้าแล้ง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ลงพื้นที่กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 12 โดยได้ประชุมร่วมกับ ผวจ.กลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลาง และหน่วยงานที่ รวมทั้ง สส.ในพื้นที่ โดยมีนายไวฑิต โอชวิช ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.,นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น,นายสุพจน์ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย,นายวันนิวัฒน์ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่นพรรคเพื่อไทย,นายวิรัช พิมพพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และ ส.ส.จากอีกหลายจังหวัดร่วมให้การต้อนรับ
นายประเสริฐ กล่าวว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อขอรับทราบปัญหาและความต้องการด้านน้ำจาก จ.ขอนแก่น ,กาฬสินธุ์, มหาสารคาม และร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่า ยังมีบางพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะประสบอุทกภัยหากมีปริมาณฝนที่ตกสะสมจำนวนมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เขตชุมชน และพื้นที่เศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่คาดว่าในช่วงปลายเดือน มิ.ย.-ก.ค.อาจเกิดฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งต้องมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบและรัดกุม พร้อมเน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า และเมื่อเกิดเหตุจะต้องเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องบริหารจัดการน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง โดยวางแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเพียงพอกับความต้องการ และให้ความสำคัญกับการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก และให้ทุกจังหวัดจังหวัด รวมทั้งกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งซ่อมแซมหรือปรับปรุงแหล่งน้ำ บ่อบาดาล รวมถึงระบบประปาหมู่บ้านที่อยู่ในความรับผิดชอบให้พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นายไวฑิต โอชวิช ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ รักษาราชการแทนรองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม อาจจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย 1–2 ลูก โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ สทนช. จึงได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันพบว่าใน 4 จังหวัด มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จัง.ขอนแก่น และอ่างเก็บน้ำลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เมื่อรวมกับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กอีกจำนวน 8,543 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวมกันอยู่ที่ 1,598.07 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 32% ของความจุเก็บกัก ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





