ปิดศูนย์ฯตึก สตง.ถล่มมีผล 15 พ.ค.นี้
หลังเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มจากแรงแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตร และสวดพระพุทธมนต์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตและสูญหาย โดยนิมนต์พระสงฆ์ 109 รูป
มาประกอบพิธีโดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสงบ แม้ต้องปรับแผนพิธีเข้าภายในอาคารเนื่องจากฝนตกก่อนจะมีการประชุมและแถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อม มอบพื้นที่คืนให้กับสตงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น. รวมระยะเวลา 50 วัน หลังภารกิจค้นหาและเก็บกู้ซากสิ้นสุดลง ขณะที่การสืบสวนหาสาเหตุยังคงดำเนินต่อไป
โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า จะส่งหนังสือแจ้งปิดภารกิจไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เคยร่วมสนับสนุน ขณะเดียวกันยืนยันว่า หากมีความต้องการสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น เครื่องสูบน้ำหรือห้องสุขาเคลื่อนที่ กทม. ยังพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่พร้อมฝากประชาชนหลีกเลี่ยงถนนกำแพงเพชร 2 ในช่วงวันที่ 13–15 พ.ค. เนื่องจากจะมีการขนตู้คอนเทนเนอร์และเครื่องจักรหนัก ซึ่งอาจกระทบต่อการจราจร
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 89 ราย แบ่งเป็นร่าง 80 ราย และชิ้นส่วน 9 ราย ขณะนี้พิสูจน์ตัวตนได้แล้ว 72 ราย และจะส่งคืนร่างผู้เสียชีวิต 86 ราย ในวันที่ 13 พฤษภาคม ส่วนอีก 3 ราย ยังไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ เนื่องจากไม่มีตัวอย่าง DNA จากครอบครัว
ด้านวัตถุพยาน เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างโครงสร้างเหล็ก 366 เส้น และคอนกรีตกว่า 200 ชิ้น รวมถึงชิ้นส่วนจากอาคารที่ยังไม่ถล่ม เช่น โถง ลิฟต์ และบันไดหนีไฟ เพื่อใช้วิเคราะห์หาสาเหตุการถล่มทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะอายัดพื้นที่อาคารที่ถล่มถึงวันที่ 31 พ.ค. และอายัดกองซากที่บางซื่อถึง 20 พ.ค. โดยการเข้าพื้นที่ต้องได้รับอนุญาตจาก สน.บางซื่อเท่านั้น
ขณะที่ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในด้านการปฏิบัติงาน ระหว่างเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่ทำงานในพื้นที่อาคารถล่มวันละประมาณ 600–800 คน และหากรวมพื้นที่โดยรอบ จะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรวมกว่า 1,000 คนต่อวัน ค่าน้ำมันสำหรับเครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 200,000 บาท โดยเฉพาะรถเครนขนาดใหญ่
ขณะนายมนเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. ร่วมพิธีทำ ทำบุญอุทิศส่วนกุศล พร้อมให้สัมภาษณ์ ยืนยันไม่หนักใจต่อกระบวนการสอบสวน พร้อมให้ความร่วมมือทุกหน่วยงาน และย้ำว่า “ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรม” ระบุตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งและยึดตามกฎหมายทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ แม้ศูนย์บัญชาการฯ จะยุติบทบาทลง แต่ภารกิจของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุอาคารถล่มยังคงเดินหน้า เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม โดยมีรายงานว่าพนักงานสอบสวน
เตรียมออกหมายจับเพิ่มเติมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 17 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
