Home
|
อาชญากรรม

ปทส. ขยายผลตรวจโรงงานครอบครองวัตถุอันตรายกว่า 256 ตัน

Featured Image
ตํารวจ ปทส. ขยายผลตรวจสอบโรงงานลักลอบครอบครองวัตถุอันตราย ขยะอิเล็กทรอนิกส์ กว่า 256 ตัน

เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง ต.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

 

 

สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันจับกุม นายศราวุฒิฯ อายุ 48 ปี โดยกล่าวหาว่า มีหรือครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ชิ้นส่วนอุปกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฯ ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตรา พ.ศ.2535

 

ต่อเจ้าหน้าตำรวจได้มีการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาจนทราบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวรับมาจาก บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ต่อมาจากการขยายผล ซึ่งเป็นบริษัทต้นทางของขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว พบนายสตีเฟ่นฯ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเป็นผู้นำตรวจ โดยผลการตรวจสอบพบ กองเก็บวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และกากของเสียจากการผลิตไว้ ภายนอกอาคารโรงงาน ขยายการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ประกอบกิจการโรงงานเข้าข่ายโรงงานประเภท106 โดยตรวจพบการบดย่อยและร่อนแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วภายในพื้นที่อาคารโรงงาน เพื่อนำโลหะกลับมาใช้ใหม่

 

 

เป็นการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯืตรวจพบการเก็บกากอุตสาหกรรมไว้ในถุง Big Bag และถัง IBC บริเวณด้านหลังพื้นที่โรงงาน เจ้าหน้าที่ตรวจได้ทําการตรวจยึดเครื่องจักรที่ใช้ประกอบกิจการโรงงานประเภท 106 กำลังเครื่องจักรรวม 536.12 แรงม้า กองกากอุตสาหกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารโรงงาน รวมถึงเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ ถังน้ำมันปนเปื้อน ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน รวม 256 ตัน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube