Home
|
อาชญากรรม

จับแก๊งไทยเทา-แอฟริกันตะวันตกหลอก บ.ญี่ปุ่นโอนเงินกว่า 228 ล้าน

Featured Image
ตํารวจไซเบอร์รวบแก๊งไทยเทาร่วมกับชาวแอฟริกันตะวันตกหลอกบริษัทดังในญี่ปุ่นโอนเงินกว่า 228 ล้านบาท เร่งขยายผลเพิ่ม

 

วันนี้(9 พ.ค. 68) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยรสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 ร่วมแถลงผลปารจับกุมแก๊งไทยเทาร่วมกับชาวแอฟริกันตะวันตกหลอกบริษัทชื่อดังในญี่ปุ่นโอนเงินเข้ากว่า 228 ล้านบาท

 

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า คดีนี้มีคนไทยร่วมกระทําผิด 6 คน ชาวไนจีเรีย 1 คน และ ชาวกาน่า 1 คน รวมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งสิ้น 8 คน จับกุมแล้ว 6 คน อยู่ระหว่างติดตามอีก 2 คน คือคนไทยและชาวไนจีเรีย โดยการกระทําผิดกลุ่มคนร้ายมีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทําเหมือนเป็นบริษัทคู่ขากับประเทศญี่ปุ่นและพูดคุยทางอีเมลเพื่อซื้อสินค้าบางอย่างที่นํามาใช้ในประเทศญี่ปุ่นและมีการจัดบริษัทขึ้นมาใหม่อีกกว่า 10 บริษัท อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่าบริษัทเหล่านี้มีลักษณะเป็นนอมินีหรือกระทําผิดกฎหมายอื่นๆอีกหรือไม่

 

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยถึงแผนประทุษกรรมว่า กรณีนี้คนร้ายได้มีการวางแผนมานาน เริ่มตั้งแต่ฝั่งตัวเข้าไปในบริษัทคู่ค่าของประเทศญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ โดยแฝงตัวไปในระบบสารสนเทศของเกาหลีใต้และมาเปิดบริษัทชื่อเดียวกันกับของประเทศเกาหลีใต้ที่ประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ทําการเดินบัญชีเพื่อปกปิดจากการตรวจสอบ แต่ไม่มีการประกอบธุรกิจจริง และอาศัยวันหยุดยาวช่วงวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ที่บังเอิญตรงกันพอดีของประเทศไทยและญี่ปุ่น โดยทําการปลอมเมลของประเทศเกาหลีใต้และส่งใบ Invoice หรือใบชําระหนี้ ไปยังบริษัทประเทศญี่ปุ่นว่าได้มีการส่งสินค้าไปแล้ว และให้โอนเงินเข้ามาที่บัญชีอําพรางในประเทศไทยจํานวน 228 ล้านบาท

 

จากนั้นคนร้ายได้ไปถอนเงินจํานวน 13 ล้านบาท ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบทุจริตเห็นความผิดปกติเนื่องจากบริษัทดังกล่าวไม่เคยทําการค้ากับบริษัทญี่ปุ่นมาก่อน จึงประสานให้ทางตํารวจไซเบอร์ตรวจสอบ กระทั่งไล่ตรวจสอบบัญชีจนพบว่าบริษัทดังกล่าวมีลักษณะเหมือนบัญชีม้านิติบุคคลจึงทําการอายัดเงินและประสานตํารวจญี่ปุ่นออกหนังสือยืนยันว่ามีการหลอกลวงที่ประเทศญี่ปุ่นจริงจนมาสู่การออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาในที่สุด

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเนื่องจากทราบว่ามีบริษัทและกลุ่มบุคคลทั้งคนไทยและต่างประเทศอีกจํานวนหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube