Home
|
ข่าว

พรุ่งนี้จบ “คนชั้น14” ป่วยทิพย์Vs60สว.ฮั้วเลือกตั้ง

 

 

บังเอิญหรือตั้งใจที่ 2 คดีสำคัญที่ส่งผลกระทบการเมืองกับรัฐบาลเพื่อไทย ดันไปบรรจบจะมีข้อสรุป ในวันพรุ่งนี้ (8พ.ค.2568 ) ไม่ว่าจะเป็น “คดีคนชั้น14” ในโหมด “ป่วยทิพย์” คือถูกกังขาจากสังคมว่า “ป่วยจริง”ที่เป็น “ข้ออ้าง”ในการไม่ “รับโทษ”ถูกคุมขังในเรือนจำและไปพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยVIP ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ ที่ปม “ป่วยทิพย์” อยู่ในกระบวนการพิจารณาตรวจสอบและเตรียมลงดาบจริยธรรมกับ“7หมอ”ที่มีข่าวเกี่ยวข้องในขั้นตอนการรักษาอาการป่วยของ “ทักษิณ”ของแพทยสภา ที่จะมีการประชุมพิจารณาข้อสรุปจาก “คณะอนุกรรมการแพทยสภา” ที่ตรวจสอบเรื่องนี้เสร็จแล้วส่งเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภา พรุ่งนี้ (8พ.ค.2568) ท่ามกลางการลุ้นจากหลายฝ่าย มีทั้งให้กำลังใจ นายแพทย์ที่อยู่ในกรรมการแพทยสภาในการเดินหน้าในการพิจารณาเอาผิดกับแพทย์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จากข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์

 

ในขณะอีกคดีที่มาแรงแซงโค้งคือ คดี “ฮั้วเลือกตั้งสว.”ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีนัดประชุมพิจารณาการชี้แจงของ 60 สว.ล็อตแรก ที่จะทยอยถูกกกต.เรียกเข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาความผิด ตาม พรป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาพ.ศ.2561 ตั้งแต่พรุ่งนี้(8พ.ค.2568) ที่ก่อนหน้า1-2สัปดาห์ มีการปล่อยทำนองว่า บรรดา 138 สว.ได้มีการอ้างว่า “ข้างบนเคลียร์กันแล้ว”

 

แม้ภายหลังจะปรากฎภาพการทำงานขงคณธกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่ กกต.ร่วมกับ DSI ไปเก็บพยานหลักฐาน ในหลายพื้นที่ จนบางพื้นที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูง ฝ่ายปกครองส่วนภูมิภาค มีการรายงานไปหน่วยงานยังส่วนกลาง กระทั่งมีการออกมาเป็นข่าวจากDSI และจาก  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมถึง อนุทิน ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย โดยคดีนี้หลังจากที่ DSI ดึงเอาข้อหา “อั้งยี่ซ่องโจร”กลับเข้ามา มีการปล่อยข่าวหลังจากนั้น ว่าจะถูกโยงไปยัง “นักการเมือง” ระดับบิ๊ก ๆ 5-6คน

 

ทั้ง 2 เรื่องนี้ ถูกจับตาว่า “ผลลัพธ์”ที่ออกมา วันพรุ่งนี้(8พ.ค.2568 ) ในทางการเมือง และในทางกฎหมาย จะส่งผลกระทบต่อไปยัง “คดีหลัก”ของ “คนชั้น14” ที่จะเข้าสู่การไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันที่ 13มิ.ย.68 อย่างไรที่แน่นอน หากผลที่ออกมาในทางลบย่อมส่งผลกระทบกับรัฐบาลปัจจุบันถึงขั้นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

 

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2568นายกรับมนตรีเพิ่งให้สัมภาษณ์ทั้งในสถานะ “ลูกสาว”และ นายกรัฐมนตรี” ยืนยันว่าทักษิณป่วยหนักจริงต้องผ่าตัด ที่หากผลออกมาจากปากคำหมอในแพทยสภาตรงกันข้าม นอกจากจะถูกมองว่า จะส่งผลต่อรูปคดีการได้รับโทษจริง ในการที่จะทำให้ ทักษิณจะต้องกลับไปรับโทษแล้ว ยังจะส่งผลต่อลูกสาวที่เป็นนายกฯ ด้วย ที่ไม่แปลกที่จะเริ่มมีกลุ่มเคลื่อนไหวทั้งฝ่างตรงข้ามและฝ่ายรัฐบาลออกมาขยับ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม คปท.และ กลุ่มแพทย์ ออกมาขยับและเตรียมไปแอ๊คชั่นต่อการประชุมพรุ่งนี้

 

ในขณะเดียวกัน กกต.พรุ่งนี้ กับเคสของ “60สว.” ในวันที่ 7 พ.ค. 2568  กลุ่มของ ทนายอั๋น นายภัทรพงศ์ ศุภักษร และทีมงาน ได้บุกไปแอ๊คชั่นที่ DSI เพื่อให้กำลังใจ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ในการลุยคดีฮั้ว สว.
โดยเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเป็นแบ็คอัปให้DSIจัดการผู้อยู่เบื้องหลัง โดย ทนายอั๋นยังตั้งข้อสังเกตถึงกรณีผู้ว่าอำนาจเจริญออกหนังสือในวันหยุด โดยนายภัทรพงศ์อ้างว่า จ.อำนาจเจริญ เป็นแหล่งที่อยู่ของ “เจ๊ใหญ่”  เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินจำนวนมหาศาล และไม่เห็นด้วยกับการที่สว.หลายรายออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวท้าทาย “อธิบดีDSI” ตน เชื่อว่า DSI และ กกต.จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาในเร็วๆ นี้ โดยทราบว่าในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค. 68) จะมีการออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและชี้แจง จากนั้น กกต. จะพิจารณาวินิจฉัย

 

คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ก่อนส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยทนายอั๋นบอกด้วยว่า ข้อเท็จจริงและหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและการฟอกเงิน จะต้องถูกเปิดเผย ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายของสำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ในฐานฟอกเงินเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำดังกล่าว.


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube