“น้องการ์ตูน” เหยื่ออุบัติเหตุอยุติธรรม 11 ปี สุดเศร้า!ครอบครัวจำใจปล่อยมือ
กลับมาเป็นที่สนใจของสังคมอีกครั้ง กับ คดีน้องการ์ตูน เด็กหญิงที่ประสบอุบัติเหตุถูกกระบะแต่งซิ่งพุ่งชนเมื่อปี 2557 เป็นเหตุให้น้องการ์ตูน กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงทันที ตลอดระยะเวลา 11 ปี ที่แม่น้องการ์ตูนต้องดูแลน้องมาโดยตลอด กระทั่งล่าสุด ทางคุณแม่ และครอบครัว ต้องยอมปล่อยน้องการ์ตูน ให้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความโศกเศร้าและเสียใจของครอบครัว รวมถึง สร้างความสะเทือนใจให้ ชาวโซเชียลที่ติดตาม ข่าวของน้องการ์ตูนมาตลอด 11 ปี
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อ19 กันยายน 2557 รถกระบะแต่งซิ่ง ขับโดยหญิงสาวที่ชื่อ น้ำผึ้ง พุ่งชนร้านสเต็กลุงใหญ่ ปากซอยเอกชัย 119 เขตบางบอน กรุงเทพฯ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้นายภาณุทัต พ่อของ น้องการ์ตูน เสียชีวิตทันที ขณะปกป้องน้องการ์ตูน ในขณะนั้นอายุเพียง 5 ขวบ ส่วนน้องการ์ตูนมีอาการบาดเจ็บสาหัส สมองเสียหาย 75% ตาบอด พูดไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง มาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ในที่สุด เมื่อปี 2558 ศาลอาญาธนบุรี พิพากษาจำคุกน้ำผึ้ง 1 ปี ไม่รอลงอาญา และสั่งชดใช้ค่าสินไหม 6.3-6.5 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบัน ทางครอบครัว แม่น้องการ์ตูน ยังไม่เคยได้รับการติดต่อหรือได้รับการเยียวยา จากฝั่งคู่กรณีเลย จนกระทั่ง น้ำผึ้งพ้นโทษออกมา และใช้ชีวิตอย่างสุขสบายตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สร้างแรงกระเพื่อมให้คนในสังคม ต่อความไร้สำนึกของคู่กรณีที่ไม่เคยมาดูแลเยียวยา น้องการ์ตูนเลย และที่ผ่านมา เพจดังต่างๆ พยายามตามความคืบหน้าคดีและเป็นสื่อกลางในการประสานช่วยเหลือแม่น้องการ์ตูน เกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน” ได้โพสต์ข่าวเศร้า ภายหลังจากที่ครอบครัวได้ตัดสินใจ ปล่อยน้องไปอย่างสงบ โดยระบุข้อความว่า “ขออนุญาตแจ้งเรื่องสำคัญ ที่พยายามหลีกเลี่ยงจะพูดแต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องพูด เพื่อให้พี่ๆ ทุกท่านเข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกกำลังใจและการสนับสนุนจากพี่ๆ คือพลังสำคัญสำหรับ “น้องการ์ตูน”
และคุณแม่ของน้องอย่างที่สุด แต่วันนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่า กำลังใจเหล่านั้นคือ “ครั้งสุดท้าย”ที่จะส่งถึงน้อง หลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ครอบครัวและคุณแม่ของน้องได้ตัดสินใจ “ปล่อยน้องไปอย่างสงบ” เงินทุกบาททุกสตางค์จากพี่ๆ ได้ถูกนำไปใช้เพื่อค่ารักษาส่วนที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อให้น้องได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย
ในประเด็นนี้ ก็มีเรื่องดรามา เข้ามาเกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล ที่แม่น้องการ์ตูนพาลูกไปรักษาที่ รพ.เอกชน จนมีเรื่องค่ารักษาที่ค่อนข้างสูง เพราะเพจดังต่างช่วยกันแชร์และขอรับบริจาค เพื่อนำไปเป็นค่ารักษา ซึ่งมีบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดไม่พาน้องไปรักษาของรพ.รัฐ เพราะค่ารักษา น่าจะถูกกว่ามา แต่ทางครอบครัวระบุว่า ก่อนหน้านี้ เคยพาไปรักษาที่ รพ.รัฐ แต่เป็นห้องรวม และรักษาจนมีอาการปอดติดเชื้อและปอดหายไป 1 ข้าง ครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล ไปอยู่ รพ.เอกชนแทน
สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวตลอดช่วงระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา คุณแม่น้องการ์ตูน มีแต่ความสูญเสียสูญเสียทั้ง สามี ที่เสียชีวิตทันทีหลังถูกรถชน และต่อสู้คดีมาจนต้องยอมยกธงขาว ยอมแพ้ไม่เดินหน้าต่อ เธอกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว สู้ชีวิตหาเงินเพื่อดูแลรักษาน้องการ์ตูนครอบครัวต้องแบกรับค่ารักษาและหนี้สินเอง โดยไร้การเยียวยาจากคู่กรณี โดยแม่น้องการ์ตูนเปิดใจด้วยความเจ็บปวดหลังมีประเด็นดรามาว่าแทนที่จะมารุมต่อว่าเธอ ทำไมไม่ไปต่อว่าคนก่อเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเธอต้องมาถึงจุดจุดนี้
และจากเหตุการณ์นี้ ทำให้สังคมเห็นถึงช่องโหว่ของกฎหมาย ที่แม้ศาลจะสั่งให้ชดใช้เยียวยาให้ครอบครัวผู้สูญเสีย แต่ฝ่ายของผู้กระทำละเมิด ก็ไม่เคยลงมาเหลียวแล เดินหน้าใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข ไม่สนใจกระแสสังคมที่ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์รวมถึงกรณีของโทษ ที่ได้รับนั้นว่า น้อยเกินไปหรือไม่กับ สิ่งที่ครอบครัวของน้องการ์ตูนต้องเผชิญตลอดระยะ 11 ปี ที่ผ่านมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





