Home
|
ข่าว

นายกฯ ย้ำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับกาสิโน

Featured Image

 

นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แจง”มูดีส์” ลดระดับความเชื่อ เป็นเพียงมุมมอง ไม่ใช่การให้คะแนน ชี้ ต้องทำให้หายกังวล-แก้เศรษฐกิจผ่านมรสุมกำแพงภาษีสหรัฐฯ ย้ำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ : Mission Thailand” โดยระบุว่า โลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงอยากสื่อสารให้ประชาชนได้มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเศรษฐกิจทั้งรอบโลกและในประเทศ รัฐบาลได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง และรับรู้ถึงปัญหาอุปสรรค และมองเรื่องโอกาส แนวทางการแก้ไขปัญหา เพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราจึงต้องคอยมอนิเตอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ก็มีเรื่องนโยบายภาษีของสหรัฐฯ จะใช้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่สร้างแนวทางการเจรจาต่อไป

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มูดีส์ มองภาพประเทศไทย โดยปรับลดความน่าเชื่อถือของไทยเป็นเชิงลบ ไม่ใช่เป็นการให้คะแนนแต่เป็นมุมมองเมื่อเกิดปัญหาแบบนี้จะทำอย่างไรให้เกิดการเติบโตไม่ใช่ว่าประเทศไทยนั้นขาดความเชื่อมั่น แต่ปัจจัยในการวัด เมื่อมีเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐฯเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นกับทั่วโลกและหลายประเทศ อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการลดความน่าเชื่อถือของประเทศต่างๆ เช่น กัมพูชา จอร์เจีย ปัจจัยตรงนี้หากใครถูกมองในช่วงเวลานี้ แต่มุมมองนั้นปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ทางคลังและรัฐบาลเองก็เฝ้าดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ว่าในมุมที่มูดีส์ เป็นห่วงนั้นคืออะไร เราก็ต้องไปดูว่ามีข้อกังวล อะไรบ้าง ขณะเดียวกันต้องมองเรื่องของภาระหนี้ต่อเนื่องรวมไปถึงความขัดแย้งทางการเมืองเสถียรภาพทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้เป็นอุปสรรคที่จะทำให้นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปได้ยากขึ้นหรือไม่ หรือนโยบายนั้นสำเร็จได้ยากขึ้นหรือไม่นี่คือสิ่งที่เขามองแล้วรัฐบาลควรทำอย่างไร อย่างแรกคือเราต้องไม่ทำให้เขากังวล เตรียมการทางเศรษฐกิจให้ผ่านมรสุมไปให้ได้

 

ขณะเดียวกัน ต้องมองอนาคต มุ่งการหาเงินเข้าประเทศที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมในอนาคตที่เราลงทุนไปแล้วหรือรับคนลงทุนเข้ามาแล้วทั้ง Data Center /semi connector ซึ่งเม็ดเงินเหล่านี้ที่เข้ามาเป็นสิ่งสำคัญว่า จะทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนและเติบโต จึงต้องทำให้มั่นใจว่าการที่ GDP เติบโตขึ้น 3-4% อย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยทุกคนอาจจะทราบว่าในปี 2567 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตช้า GDP ทั้งปีอยู่ที่ 2.5% แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายตัวเลขขยับขึ้นเป็น 3.2% แสดงให้เห็นว่าการเร่งเครื่องทางเศรษฐกิจ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดผล เพราะฉะนั้นไตรมาสสุดท้าย 3.2% แล้วจะต้องขับเคลื่อนและผลักดันเช่นนี้ต่อไป แม้ว่าจะมีอุปสรรคผ่านเข้ามาทั้งแผ่นดินไหว และกำแพงภาษี แต่รัฐบาลก็พยายามหาทางออก และพูดคุยกับทุกภาคส่วนเพื่อหาคำตอบที่เป็นประโยชน์จริงๆ

 

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลนี้มีมาตรการทางระยะสั้น กลาง และยาว เส้นในระยะสั้นรัฐบาลก็มีมาตรการปลดล็อคหนี้สินรถกระบะ ซึ่งมาตรการระยะสั้น ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการผลักดันจีดีพี ประเทศไทยให้สูงขึ้น และการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย สร้างโอกาสและการหากิน ถือเป็นการต่อลมหายใจให้ธุรกิจรายเล็กสามารถดำรงอยู่ต่อได้

 

สำหรับการดึงดูดการลงทุนรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่อง Crow first policy ซึ่งจะเป็นการดึงดูดการลงทุนในการสร้าง Data Center และ Crow Service ที่รัฐบาลลงทุนถึง 2.4 แสนล้านบาท เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้เข้ามาเกิดการจ้างงานใหม่ ๆ และทักษะใหม่ ๆ ให้กับคนของเรา

 

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีจุดแข็งในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ซึ่งรัฐบาลได้เพิ่มวีซาฟรี ที่ให้นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยได้นานมากขึ้น รัฐบาลได้จับมือร่วมกับอาเซียน Six Countries one destinations หรือ หกประเทศ หนึ่งจุดหมายปลายทาง ที่สามารถนำวีซา เข้าประเทศในอาเซียนได้ เพื่อเป็นการจับกลุ่ม และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามเรื่องของการท่องเที่ยวจะมีทางตัน เช่น จะมีช่วงไฮซีซั่น และโลซีซั่นอยู่ตลอด

 

ขณะที่ เรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงครบวงจร ว่า เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะกาสิโน มีไม่ถึงร้อยละ 10 ของพื้นที่ ในเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์แต่คนได้ยินแต่คำว่า กาสิโน ไม่ได้ยินคำว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งไม่แปลกใจเพราะมันเป็นเรื่องของการบิดเบือนไปในทางการเมือง ว่าเราจะตีนโยบายที่เกิดประโยชน์ให้กับประเทศอย่างไรบ้างเป็นเกมการเมือง

 

แต่เรามาทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ ว่า ถ้าสร้างเอกซ์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ประเทศไทยได้อะไรบ้าง อย่างแรกประเทศไทยไม่ได้เสียอะไรเพราะรัฐไม่ได้ลงทุน แต่เป็นเอกชนเข้ามาลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน รัฐบาลก็เก็บภาษีต่างชาติได้ ส่วนที่บอกว่าสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แต่ไม่ต้องมีกาสิโน ขอให้ทุกคนนึกภาพเราสร้างสเตเดี่ยม แบบอินดอร์ ซึ่งแบบเอ้าท์ดอร์เรามีอยู่แล้วเพื่อนำมาจัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ซึ่งเรายังไม่มี สเตเดียมแบบในร่มเพื่อให้เหมาะกับ อากาศประเทศไทยหากเราลงทุนเป็นหมื่นเป็นพันล้าน ต้องขายตั๋วเท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุน พอกับค่าก่อสร้างทั้งหมด อย่างเรื่องของกาสิโน เราสามารถใช้เงินในส่วนนี้มารองรับการก่อสร้างได้ มากไปกว่านั้นเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์จะมี พื้นที่ในการจัดคอนเสิร์ต มีพื้นที่สำหรับครอบครัว ถ้ามีเด็ก เราก็พาไปที่สวนน้ำไปดูคอนเสิร์ตไปทำกิจกรรมต่างๆที่มีมากมาย

ในนั้นเป็นสิ่งที่สามารถได้ใช้เวลาครอบครัวได้อย่างมีความสุขมีรีสอร์ท มีโรงแรม เราสามารถฝันได้ เวลาเราไปต่างประเทศ ก็จะมีคำถามว่าทำไมประเทศเค้าถึงสวย เราสามารถฝันได้เลยว่า หากเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เกิดขึ้นมันจะสร้างรายได้อย่างมากมายในประเทศไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานจ้างอาชีพใหม่ใหม่ที่เกิดขึ้นคนตกงานก็จะน้อยลงอย่างมากที่สำคัญเราจะสามารถฝันได้ว่า ที่เราเห็นที่เมืองนอกมันจะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นการจัดงานคอนเสิร์ตหรืออีเวนท์ต่างๆ

 

นายกรัฐมนตรี ยังยกตัวอย่างที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างเกาะขึ้นมาในเมืองโอซาก้าจัดเวิลด์เอ็กซ์โปร ซึ่งหลังจากจบงาน ก็จะมีการเคลียร์พื้นที่จัดทำเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งประกาศออกมาในปี 2025 เสร็จในปี 2030 หากประเทศไทยทำเช่นนี้จะไม่มีโลว์ซีซั่นหรือไฮซีซั่น ตนเคยทำธุรกิจมาก่อน ช่วงโลว์ซีซั่นเป็นอย่างไรกว่าจะขายห้องได้ส่วนที่มีความเป็นห่วงในเรื่องของการพนัน ที่ถูกมอมเมาจากการพนันนั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า เรามีกฎหมายที่จะรองรับเรื่องเหล่านี้ บางคนบอกว่าประเทศไทยกฎหมายไม่จริงจัง กฎหมายเบาไปเราก็จะกำกับดูแล 2 ทาง หากมีใครทำผิดกฎหมายนำเงินเข้ามาฟอกเราจะมีการดำเนินคดี และผู้ที่ทำผิดก็จะถูกกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศของตัวเองด้วย เราจึงจะต้องมีการประสานงานกันว่าให้ถูกดำเนินคดี
ทั้งในประเทศเราและประเทศเขา

 

ขณะเดียวกัน มีการกำหนดในเรื่องของทรัพย์สินบุคคลที่จะเข้าไปเล่นกาสิโน ย้ำว่าไม่ใช่ใครก็สามารถเข้าไปเล่นได้และแจ๊กพ็อตได้เงิน 30 ล้านบาทกลับไป จะมีการตรวจสอบประวัติทั้งชาวต่างชาติและคนไทย นายกฯ บอกต่อว่า รัฐบาลเป็นห่วงในเรื่องนี้ ก่อนย้ำว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube