“โรม” หนุน DSI สอบฮั้วเลือก สว.
การเลือกสมาชิกวุฒิสภาหรือเลือกส.ว. ที่ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใส กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมพิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ท่ามกลางคำถามจากหลายฝ่ายว่าทำไมเพิ่งมีการดำเนินการ ทั้งที่ปัญหานี้ถูกพูดถึงมานาน
กระบวนการเลือก สว. ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ต้นว่ามีความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเรื่องฮั้วเลือกหรือการสมคบกันระหว่างผู้สมัครบางกลุ่มเพื่อช่วยกันให้ได้รับเลือก ข้อกังขานี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง จนกระทั่งล่าสุด ดีเอสไอประกาศว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นหนึ่งในผู้ที่เคลื่อนไหวกดดันให้เกิดการตรวจสอบ โดยตั้งคำถามว่าเหตุใด กกต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง จึงไม่ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้เสียเอง
หากที่ประชุม กคพ. มีมติรับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ จะเป็นก้าวสำคัญในการตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้งระดับสูงของประเทศนายรังสิมันต์ ย้ำว่า สิ่งสำคัญคือกระบวนการต้องโปร่งใสและจริงจัง ไม่ใช่แค่การสร้างภาพ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ประชาชนต้องการเห็นการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายจับตาว่า การเดินหน้าสอบสวนคดีนี้อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายรังสิมันต์มองว่า แม้ไม่มีประเด็นนี้ รัฐบาลก็เผชิญความสั่นคลอนอยู่แล้วจากความขัดแย้งในนโยบายของพรรคร่วม ดังนั้นการตรวจสอบเรื่องฮั้วเลือก ส.ว. ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นเรื่องของหลักนิติธรรมที่ต้องดำเนินการ
การเลือกตั้ง ส.ว. ครั้งล่าสุด เป็นการคัดเลือกกันเองของกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยไม่มีการเลือกโดยตรงจากประชาชน กระบวนการนี้เปิดช่องให้เกิดข้อครหาว่าอาจมีการสมคบกันเพื่อให้ได้กลุ่มบุคคลที่มีแนวคิดทางการเมืองบางอย่างเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งขัดต่อหลักการเป็นกลางของวุฒิสภา หากดีเอสไอพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็อาจนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของ ส.ว. ชุดปัจจุบัน
โดยการสืบสวนของดีเอสไออาจนำไปสู่การพิจารณาโทษทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้กระบวนการเลือก ส.ว. ต้องเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และประมวลกฎหมายอาญา ที่อาจครอบคลุมถึงความผิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือการทุจริตในการเลือกตั้ง
การตรวจสอบคดีฮั้วเลือก ส.ว. อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบการเมืองไทย หากพบว่ามีการทุจริตจริง ย่อมหมายถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิรูปกระบวนการได้มาของ ส.ว. ให้เป็นธรรมและโปร่งใสมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอยู่ที่ว่า ดีเอสไอจะสามารถทำให้คดีนี้คืบหน้าไปถึงขั้นลงโทษผู้กระทำผิดได้หรือไม่
นี่อาจเป็นบททดสอบสำคัญของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถรักษาหลักนิติธรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้จริง หรือจะเป็นเพียงคดีที่ถูกลืมไปตามกาลเวลาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





