Home
|
ข่าว

”แมดดิสัน” ยิงชัย !”ไก่”เปิดบ้านเชือด ”ผี” นิ่มๆ 1-0

Featured Image
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ขาดนักเตะชุดหลักที่ได้รับบาดเจ็บไปถึง 12 ราย บุกไปโดน ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เชือดนิ่มๆ  1-0 แพ้ในลีกเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันแล้ว

 

 

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนาม ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ระหว่าง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของรูเบน อโมริม ถ้าพูดถึงผลงาน 5 เกมหลังสุดถือว่าทำได้ดี ทีมชนะมากถึง 4 นัด แต่ถ้าลงรายละเอียดยังถือว่าน่าผิดหวัง ฟอร์มทีมยังไม่น่าประทับใจนัก โดยเฉพาะเกมล่าสุดในลีกที่แพ้คาบ้านให้กับคริสตัล พาเลซ 2-0

 

ฝั่ง สเปอร์ส ภาพรวมหนักกว่าเยอะ ทีมแพ้ 3 จาก 5 เกมหลังสุด ต้องอกหักร่วง 2 ถ้วยติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

 

ข่าวดีของสเปอร์สก็คือ พวกเขาได้ตัวหลักหายเจ็บกลับมามีชื่อในทีมหลายราย กูเญลโม่ วิคาริโอ กับ เจมส์ แมดดิสัน ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันที ขณะที่ เดสตินี่ อูโดกี้, เบรนแนน จอห์นสัน และ วิลสัน โอโดแบร์ มีชื่อเป็นตัวสำรอง

 

แมนฯยูไนเต็ด เปลี่ยนทีม 4 ตำแหน่งจากเกมชนะเลสเตอร์ เลนี่ โยโร่, มานูเอล อูการ์เต้, ค็อบบี้ เมนู และ อาหมัด ดิยาลโล่ ชื่อหายไปจากทีมเปิดทางให้ มัตไธจ์ส เดอ ลิกท์, คาเซมิโร่, โยชัว เซิร์กซี และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้เป็นตัวจริง

 

 

เกมนี้ สเปอร์ส ครองบอลบุกได้มากกว่า และออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน ตามซ้ำลูกยิงของ ลูคัส เบิร์กวัลล์ เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 13

 

 

ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามฮึดสู้ และมีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอจะส่งบอลผ่านมือ กูเยลโม วิคาริโอ นายทสารเจ้าถิ่น เข้าไปซุกก้นตาข่ายได้

 

 

จบเกม สเปอร์ส เปิดบ้านเฉือน แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 มี 30 คะแนนจาก 25 นัดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12 ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด มี 29 คะแนนหล่นลงมาอยู่ที่ 15 แล้ว

 

 

ส่วน  ลิเวอร์พูล ที่เล่นแบบกระเสือกกระสนตลอดทั้งครึ่งหลังแบบที่ไม่มีโอกาสยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยังตรึงสกอร์ที่ได้เปรียบเฉือนชนะ วูล์ฟส์ 2-1 เก็บ 3 แต้มสำคัญขยับหนี อาร์เซน่อล ทีมอันดับสองเป็น 7 แต้มเท่าเดิม

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube