พัทยาเริ่มตั้งด่านเมาวันแรกจับ 2 ราย ตรวจฝรั่งขึ้นสูงกว่า 200 มก. โวยวายยกนิ้วกลางแจกของลับ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ทุกพื้นที่รับทราบเรื่อง การตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด ต้องมีมาตรฐานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา คือ มีความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้ โดยการใช้เทคโนโลยี เช่นการใช้กล้อง CCTV เคลื่อนไหวได้ที่จะต้องมีประจำตัวเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจ และด่านต่างๆ เช่น ด่านกวดขันวินัยจราจร ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ด่านอาชญากรรม ฯลฯ โดยจะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน
ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.อมรเทพ ใหม่มา รองสว.จร.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่จราจร ตั้งด่านวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บนถนนเส้นทัพยา เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้อนุมัติให้เริ่มตั้งได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน คือเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยการตั้งด่านในรูปแบบใหม่นี้ มีการตั้งกล้องซีซีทีวี ตั้งแต่ด้านหน้าด่านเพื่อบันทึกภาพประชาชนที่ขับขี่ยานพาหนะเข้ามาภายในบริเวณด่าน ที่มีการตั้งแผงไฟ กรวยอย่าง เปิดสัญญาณไฟให้เห็นได้เด่นชัด มีกล้องตั้งให้เห็นขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในขณะที่เรียกตรวจสอบ และกล้องที่บันทึกภาพในขณะที่เชิญตัวผู้ขับขี่ลงมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย มีไฟสว่างเห็นได้อย่างชัดเจน
ด้านร.ต.อ.อมรเทพ ใหม่มา รองสว.จร.สภ.เมืองพัทยา ยังกล่าวในขณะที่ปล่อยแถวก่อนตั้งด่านอีกว่าให้เลือกตรวจยานพาหนะที่ต้องสงสัยเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันการจราจรติดขัด ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น จะต้องใช้วาจาที่สุภาพ พร้อมแจ้งเป็นจุดตรวจของ สภ.เมืองพัทยา ขอให้ชะลอความเร็ว เข้าสู่จุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเบื้องต้น หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ก็จะต้องเข้าสู่การตรวจวัดเพื่อยันผลอีกครั้ง
เบื้องต้นนั้นสามารถควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ในข้อหาเมาแล้วขับได้ 2 ราย รายแรกเป็นผู้หญิง ส่วนรายที่สองเป็นชาวต่างประเทศอยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก พูดจาโวยวาย พร้อมยกนิ้วกลางแจกของลับให้กับผู้อื่น ซึ่งผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั่นสูงกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
