กกท.- กองทุนกีฬาฯ คุย “สิริวิมล” เคลียร์ใจเงินรางวัลตกค้างเเล้ว

กกท.- กองทุนกีฬาฯ ได้เข้าคุย “สิริวิมล” เคลียร์ใจเงินรางวัลตกค้าง เผยได้ ทำเบิกจ่ายเงินรางวัลไปแล้ว
จากกรณีที่ “มายด์” สิริวิมล ประมงคล ที่เพิ่งคว้า 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จากการแข่งขันรายการนี้ได้ให้สัมภาษณ์สอบถามถึงเงินรางวัลค้างจ่ายจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ระบุข้อความว่า “นักยกน้ำหนักหลายคนยังไม่ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่ค้างจ่ายมานาน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแจ้งว่าได้อนุมัติแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว อยากทราบว่าเงินรางวัลจะออกวันไหน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬาทุกคน”
ประเด็นดังกล่าว ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้หารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 เมษายน โดย พลเอก ดร.สุภมนัส ภารพบ ประธานคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินโครงการของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมด้วนายเกียรติกร สุภากรณ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ได้พูดคุยและชี้แจงกับ สิริวิมล ประมงคล จอมพลังสาวทีมชาติไทย เรียบร้อยแล้ว
ทางกองทุนฯ ได้ชี้แจงกระบวนการต่างๆ ให้กับนักกีฬาเข้าใจและรับทราบทั้งหมดแล้ว โดยตัวของนักกีฬาเข้าใจดี และรู้สึกเสียใจที่ให้สัมภาษณ์ออกไปทำให้กองทุนฯ เกิดความเสียหาย และคนเข้าใจผิด โดยนักกีฬาบอกว่า ได้ไปพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักมวยและทราบว่า เงินรางวัลของเพื่อนที่เป็นนักมวยได้รับจากกองทุนฯ แล้ว จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมของนักกีฬายกน้ำหนักยังไม่ได้รับ
สำหรับ สิริวิมล ประมงคล เจ้าหน้าที่กองทุนฯ ได้ทำเบิกจ่ายเงินรางวัลไปแล้ว โดยเงินรางวัลจะทยอยเข้าบัญชีของนักกีฬาอัตโนมัติ ติดขัดเพียงรายการเดียวคือ รายการ “ไอดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ริยาด 2023 ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-19 กันยายน 2566 ซึ่ง สิริวิมล ได้รับ 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์-คลีนแอนด์เจิร์ก-น้ำหนักรวม จะได้รับเงินรางวัลตามหลักเกณฑ์เหรียญละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 750,000 บาท ผู้ฝึกสอน 20 % ของเงินรางวัลนักกีฬา เป็นเงิน 150,000 บาท และสมาคมอีก 30 % ของเงินรางวัลนักกีฬา 225,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,125,000 บาท อยู่ระหว่างการแก้ไขข้อมูลเอกสารการเบิกจ่ายเพื่อดำเนินตามขั้นตอนให้โดยเร็วที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews