fbpx
Home
|
ข่าว

“อนุทิน”ลั่นภูมิใจไทยประเมินผลงานรัฐมนตรีทุกวัน

Featured Image
“อนุทิน” มอง ครม. ปรับตำแหน่ง เป็นสิ่งที่ดี ย้ำ ไม่มีกำหนดเงื่อนไข ลั่นภูมิใจไทยประเมินผลงานรัฐมนตรีทุกวัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีการ ปรับตำแหน่ง ระหว่างรัฐมนตรีช่วยคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ กับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงครึ่งหลังของสภาฯและรัฐบาล เพราะฉะนั้นการที่มีการพูดคุยเจรจาได้น่าจะเหมาะสมที่จะไปทำงานรับนโยบายกันได้ การบังคับบัญชาเป็นไปด้วยความชัดเจน ไม่ต้องระแวงกัน เป็นสิ่งที่ดี เพราะรัฐมนตรีว่าการแต่ละคนก็มีภารกิจที่แสนสาหัส ถ้าไม่มีรัฐมนตรีช่วยที่เป็นทีมเดียวกัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมระบุว่า ตนโชคดีที่มีรัฐมนตรีช่วยที่ดี คนละพรรคกัน แต่สามารถรับงานของตนได้ แต่ก็ไม่ใช่ในทุกกระทรวง

เมื่อถามว่าการสลับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยในครั้งนี้มีการกำหนดเงื่อนไขหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่มี อย่างของพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล จากกระทรวงพาณิชย์มาช่วย อยู่พรรคเดียวกัน การไหว้วาน การให้ปฏิบัติหน้าที่แทนในภารกิจต่างๆ ก็ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อน ที่นายถาวร เสนเนียม เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ เพราะมีความอาวุโส และเป็นรุ่นพี่ จะไปสั่งการก็ไม่ค่อยสะดวก

ซึ่งตนก็ได้ไปหารือกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่มีปัญหา และตกลงที่จะแลกกระทรวงกัน เพราะการทำงานจะได้เป็นปึกแผ่น ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งนั้น

ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะมีการประเมินผลงานของรัฐมนตรีในทุกๆ 3 เดือนเหมือนที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ประเมินทุกวัน เผลอไม่ได้ หากใครเผลอต้องโดนปรับ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยต้องขยัน จะหน่อมแน้มไม่ได้ ซึ่งตนเห็นว่าทุกคนมีความขยัน

หากกระจายวัคซีนโควิดตามแผน จะสามารถประเมินผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น

“อนุทิน” เผย หากกระจายวัคซีนโควิดตามแผน จะสามารถประเมินผ่อนคลายมาตรการได้มากขึ้น ยันรัฐบาลไม่ปดกั้นวัคซีนยี่ห้ออื่น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเปิดประเทศ ว่า หากการกระจายวัคซีนในไทยเป็นตามแผน นับจากนี้ไป และอีก 2เดือนหน้า จะสามารถประเมิน ว่าหลังการฉีดให้กับประชาชน แล้วมีภูมิคุ้มกันในระดับใด หรือ เป็นที่น่าพอใจ ก็ต้องมีการผ่อนการมาตรการให้สะดวก และเป็นปกติมากขึ้น ซึ่งหลักการสำคัญคือความปลอดภัยของประชาชน หากประชาชนปลอดภัย พร้อมเปิดประเทศแน่นอน

ส่วนแผนการเปิดประเทศจะเป็นเดือนใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และการรับรองการฉีด ได้ให้นโยบายกับกรมควบคุมโรค และ คณะกรรมการองค์การอาหารและยา หรือ อย. ว่า การรับรองวัคซีนต้องอิงกับองค์การอนามัยโลก ที่ให้การรับรอง หรือเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย อย.ของไทย โดยวันนี้ทาง อย.ก็เร่งการขึ้นทะเบียนวัคซีน จากบริษัทอื่น โดยล่าสุด ทาง เลขาธิการ อย.แจ้งให้ทราบว่าที่ประชุม คณะกรรมการ อย. อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนบริษัทจอนสันต์ แอนด์ จอนสันต์ แล้ว ซึ่งเป็นทางเลือกอีก 1 ทาง เป็นการพิสูจน์แล้วว่า รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นวัคซีนยี่ห้ออื่น ซึ่งคาดว่า วัคซีนจากบริษัทนี้ จะสามารถซื้อขายได้ในไตรมาส 4ของปีนี้  โดยราคาวัคซีนอยู่ที่ 10 เหรียญ ซึ่งเป็นไปตามราคาที่ควบคุมขององค์การอนามัยโลก

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ทั้งนี้ยังชี้ว่ารัฐบาลไทยยังไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จัดสรรงบประมาณที่มีอยู่จัดซื้อ เนื่องจาก ไทยมีฐานผลิตวัคซีนแอสตร้าเซกา ที่บริษัทสยามไบโอไซด์ ปีละ 200 ล้านโดส ซึ่งมีการพัฒนาที่รวดเร็ว  เกินคาดที่ตั้งเป้าไว้  ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลน เหมือนกับต่างประเทศที่ล่าสุดอินเดียต้องระงับ

ส่งออกเพราะประชาชนติดเชื้อเพิ่ม และย้ำว่าต่อให้สถานการณ์ใดเกิดขึ้น วัคซีนในประเทศไทยจะเข้าถึงประชาชนแน่นอน และหากได้ผลที่ดี ก็จะพิจารณาเปิดประเทศเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับบางสถานทูตในการจับคู่ประเทศ หรือยอมรับใบรับรองการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซเนกา จะสามารถส่งวัคซีนได้ในต้นเดือนมิถุนายน เป็นการแสดงให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องมีวัคซีนที่ดีที่สุดในโลก แต่มีวัคซีนที่ถูกเวลา และราคาที่รับได้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube