Home
|
อาชญากรรม

ทนายดังช่วยดูแลคดีนักธุรกิจฟ้องรื้อถอนศาลา สร้างรุกที่ดิน

Featured Image
ทนายดัง รุดช่วยนักธุรกิจหญิง ฟ้องรื้อถอนศาลาสร้างรุกที่ดิน ตรวจพบพิรุธงบก่อสร้าง SML อาจไม่โปร่งใส

 

 

วันที่ 15 พ.ย.66 นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางลงพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน หลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ภรภัทร สรรพานิช นักธุรกิจ โดยเมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 ได้รับโอนที่ดินรวม 2 แปลงตั้งอยู่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มาจากบิดามารดา จึงได้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินพบว่ามีศาลาหลังหนึ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดิน จึงสืบหาเจ้าของเพื่อฟ้องขับไล่ศาลาออกไป

 

 

แต่ปรากฏว่าทนายความคนเดิมหลงประเด็นไปฟ้องหน่วยงานรัฐว่าเป็นผู้มอบเงินในโครงการ SML มาให้ปลูกสร้างเป็นศาลาประชาคม ภายหลังยื่นฟ้องแล้วได้มาพบกับทนายกฤษฎา อินทามระ ให้คำปรึกษาว่า คดีดังกล่าวเป็นการฟ้องผิดตัว ผู้เสียหายจึงได้มีการถอนฟ้องคดีออกไปแล้วในปี พ.ศ.2566

 

 

ต่อมา ทนายกฤษฎา พยายามสืบหาแหล่งที่มาของเงินในโครงการ SML โดยทางอำเภออ้างว่า ประมาณ ปี พ.ศ.2548-2549 รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML)เพื่อแก้ไขปัญหาในหมู่บ้านและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีเป้าหมายสำคัญของโครงการคือ การให้งบประมาณแก่ประชนชนเพื่อแก้ไขปัญหา สร้างประโยชน์ส่วนรวมของหมู่บ้านและชุมชน เพื่อเอื้อต่อการมีอาชีพและการมีงานทำของส่วนรวม รัฐบาลจึงจัดทำโครงการนี้เพื่อให้เงินอุดหนุนโดยตรงสู่ประชาชน โดยอ้างว่า ชุมชนหมู่ 9 (ที่ตั้งศาลา) ได้รับเงินในโครงการ SML จำนวน 200,000 บาท และหน่วยงานรัฐได้ส่งมอบเงินจำนวนนี้ให้แก่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 9 (ที่ตั้งศาลา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

แต่ตนพบข้อพิรุธในการเบิกจ่ายเงินเพราะ ไม่มีหลักฐานรายงานการประชุมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการโครงการกองทุน หมู่ที่ 9 (ที่ตั้งศาลา) และไม่มีหลักฐานการส่งมอบเงินจำนวน 200,000 บาท  และไม่พบหลักฐานที่ทางอำเภอแจ้งต่อสำนักงาน SML เพื่อขออนุมัติเงินจากคณะกรรมการ SML เพื่อโอนเงินงบประมาณดังกล่าวลงไปในพื้นที่ชุมชนโดยเฉพาะในชุมชนหมู่ที่ 9 นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่าคณะกรรมการชุมชนหมู่ที่ 9 ได้แจ้งทางอำเภอให้โอนเงินจำนวน 200,000 บาท ไปเข้าบัญชีธนาคารใดและผู้รับเงินคือใคร แต่ที่แน่ๆคือ เงินจำนวน 200,000 บาท สร้างศาลาได้เพียงมีเสาสี่ต้นและหลังคา แต่ไม่มีผนัง จึงไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เลยจากเงินหลวงจำนวน 200,000 บาท

 

 

ในวันนี้ผู้เสียหาย ต้องการล้อมรั้วในที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดสอบเขตโดยเจ้าหน้าที่รังวัด โดยจะล้อมรั้วภายในขอบเขตที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดโดยถูกต้องแล้ว ส่วนตัวศาลาดังกล่าวผู้เสียหายจะไม่ล้อมรั้วปิดกันเพราะกำลังมอบหมายให้ตนฟ้องขับไล่บุคคลที่อ้างตนว่าเป็นผู้ใช้เงินหลวงมาสร้างศาลา และตนจะต้องสืบให้ได้ว่า การใช้เงินจำนวน 200,000 บาท มาสร้างศาลาดังกล่าวมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube