“ชาดา” เสียงเข้มสั่งลูกเขยลาออกนายกเทศมนตรีแล้ว ย้ำ Spirit สูงกว่าคนอื่น เตือนด้อมอย่าใช้ AI-อวตารแพร่ภาพลูกหลาน ถ้าไม่พอใจขอให้ด่า”ชาดา”
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์เหตุการณ์ที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ปปป. เข้าจับกุม นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรี ต.ตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของ นายชาดา ในความผิดฐานเรียกรับสินบนโครงการรับเหมาก่อสร้าง ว่า ตนพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ต้องเก็บกวาดบ้านของตัวเองก่อน ดังนั้น ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ทันทีที่ทราบ ได้โทรศัพท์หาผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายวีระชาติ เพราะมีหลายกรณี
ที่มีลักษณะคล้ายแบบนี้ ทางผู้ใหญ่หลายคน ก็โทรมาหาตน ตนก็โทรหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า ขอให้พักการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่า กำลังดูข้อกฎหมายอยู่ และคิดว่าสุดท้ายก็ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่อยากจะบอกว่าการพักปฏิบัติหน้าที่ของทุกแห่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องเอารองนายกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นขึ้นมารักษาการแทน ทำให้ท้องถิ่นนั้นอยู่ “ซังกะตาย” หรือเกิดสุญญากาศจนกว่าจะครบวาระ หากผู้บริหารสามารถกลับเข้ามาในช่วงวาระได้ คดีหลุด
ก็กลับมาเป็นต่อ แต่บางคนก็สู้คดีจนหมดวาระ ทั้งนี้ ลูกเขยของตน หลังถูกจับก็ได้รับการประกันตัวมา เจอตน ก็ขอโทษตน ซึ่งได้บอกไปว่า ไม่ต้องพูดอะไร เราครอบครัวเดียวกัน แต่สิ่งที่จะต้องทำ คือ จะต้องลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี จะได้ให้จังหวัดจัดการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากไม่ทำแบบนี้ แล้วรอพักการปฏิบัติหน้าที่ จะถือว่าไม่เป็นธรรมกับคนในพื้นที่ และเอาเปรียบ
พี่น้องประชาชน ต.ตลุกดู่ ซึ่งลูกเขยของตนก็ลาออกไปแล้ว เมื่อเวลา 23:00 น ของเมื่อคืนที่ผ่านมา ดังนั้น ในวันนี้ ก็ต้องรอจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ใครจะลงสมัครรับเลือกตั้งก็ว่ากันไป ถือว่าเป็นมาตรฐานของสังคมไทยทางการเมืองท้องถิ่น
นายชาดา ย้ำว่า นี่คือมาตรฐาน และนายวีระชาติ ลาออกแล้ว และให้ประชาชนไปเลือกตั้งต่อ ไม่ใช่บอกว่าคดียังไม่สิ้นสุด คนที่ไปจับก็เสียความรู้สึกว่า จับมาวันนี้ พรุ่งนี้ไปเป็นนายกฯ ต่อ แต่เขาก็มีสิทธิ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ในคดีนี้ ตนเห็นว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นการถ่วงความเจริญและไม่มีสปริตทางการเมือง ถือเป็นการเอาเปรียบพี่น้อง ต.ตลุกดู่ เมื่อลาออก เทศบาลก็จัดการเลือกตั้งได้ทันที คือสิ่งที่ตนทำในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะคนใกล้ชิด จุงต้องแสดงสปริตมากกว่าคนอื่น และสิ่งที่สำคัญจับคนใกล้ชิดก็ว่า ไม่จับก็ด่า แล้วจะให้ทำอย่างไร
ขณะเดียวกัน ครอบครัวตนไม่มีปัญหา ตนในฐานะพ่อ ก็โอบกอดลูกทุกคนด้วยความรัก ความอบอุ่น แล้วก็เดินไปด้วยกัน แม้ทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ครอบครัวตนรักกัน และก็ทำหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นายชาดา ขอร้องว่า อย่านำรูปลูกหลานของตนมา หรือใช้ AI หรือ ใช้อวตาร ไม่ว่าด้อมไหน อย่านำมาออกข่าว หากต้องการด่าตน ก็ด่าได้ มีสิทธิ์จะด่านายชาดา กรณีที่เกิดขึ้นแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แต่วันหนึ่งจะเสียใจที่ด่าตน ขอย้ำว่าอย่านำรูปลูกหลานตนมาออก จะเกิดสงคราม Social หากหาอวตารไม่เจอ ก็เอาคนที่อยู่เบื้องหน้า นามสกุลอะไรบ้าง ลูกหลานนามสกุลอะไร
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นประเภทนี้จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราต้องรัก และสามัคคีกัน ขอให้สำนึกว่า วันนี้จะเกิดสงครามโลกอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีก็ปวดหัวทุกวันกรณีของอิสราเอล ดังนั้น ไม่ควรมาด่ากันอยู่ในประเทศ ขออย่าทำอะไรที่ไม่สร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม นายชาดา ตอบเพียงคำถามเดียว ก็ขอตัวกลับไปทันที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
