fbpx
Home
|
ข่าว

“กัณวีร์” ขอรัฐขยายกรอบเยียวยามูโนะมากกว่า 6 เดือน

Featured Image
‘กัณวีร์’ สส.พรรคเป็นธรรม ติดตามเหตุ ‘มูโนะ’ ย้ำรัฐเร่งฟื้นฟูความเสียหาย และขยายกรอบเวลาในเยียวยาความเสียหายให้มากกว่า 6 เดือน จี้ดำเนินคดีเจ้าของโกดังถึงที่สุด แนะทบทวนกฎหมาย ทำประชาพิจารณ์ก่อนสร้างโกดังพลุ

 

 

นายกัณวีร์ สืบแสง สส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงลงพื้นที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุระเบิดโกดังพลุไฟ ซึ่งผ่านมา 3 สัปดาห์เริ่มมีการจัดการพื้นที่เตรียมฟื้นฟู

 

บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยได้พูดคุยสอบถามความคืบหน้าการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งบ้านเรือนที่พังเสียหาย และครอบครัวผู้เสียชีวิต พบว่า ส่วนใหญ่ยังพักอยู่บ้านญาติ บางส่วนไปเช่าโรงแรม และกำลังหาบ้านเช่า ในระหว่างต้องสร้างบ้านใหม่

 

ทั้งนี้ เริ่มมีการเข้าเคลียร์พื้นที่มากขึ้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณโกดัง นอกจากนั้น ยังมีการเยียวยาในเรื่องของค่าเช่าบ้านให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนหลังละ 3,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน

 

ส่วนการเยียวยาสำหรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น นายกัณวีร์ ระบุว่า ยังไม่ได้รับครบทุกครอบครัว แต่ก็มีการพูดคุยถึงเรื่องการเยียวยาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้น ซึ่งระยะเวลาการเยียวยาที่เสนอไว้คือ 6 เดือน แต่การสร้างบ้านคงจะใช้เวลาถึงปีครึ่ง

ถึง 2 ปี ส่วนระยะเวลาการเยียวยาจึงจะต้องขยายมากกว่า 6 เดือน

 

ขณะเดียวกัน นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีผู้กระทำผิด เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย หลังจากที่เจ้าของโกดังได้มอบตัวแล้ว ก็มีการพูดคุยว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและขอให้มีการพิสูจน์หลักฐานอย่างถูกต้อง

โดยเฉพาะจำนวนน้ำหนักและปริมาณของพลุและดอกไม้เพลิงว่ามีน้ำหนักเท่าไหร่ที่ทำให้เกิดความเสียหายขนาดนี้ ส่วนการดำเนินคดีก็เป็นเรื่องที่ศาลต้องวินิจฉัยต่อไป

 

ด้านข้อเสนอให้ทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้เพลิง ที่ได้เสนอในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ขอย้ำว่า จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งการขับเคลื่อนกฎหมายต่างๆ พร้อมยืนยันว่า เรื่องของโกดังดอกไม้เพลิงนั้น จำเป็นต้องมีการมีส่วนร่วมของเจ้าของพื้นที่ คือต้องมีการจัดทำการประเมินผลกระทบในเรื่องของสิ่งแวดล้อม SEA และ EIA ด้วย

 

ดังนั้น การทำประชาพิจารณ์เป็นสิ่งจำเป็น ต้องการจะสร้างโกดังที่มีความอันตรายในลักษณะนี้ ควรต้องได้รับความยินยอมจากคนในพื้นที่ก่อนต้องให้ได้รับการอนุญาตและหลังจากการอนุญาตแล้วต้องมีการมัดรวมเข้าไปในกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดผลบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube