fbpx
Home
|
ทั่วไป

ชาวไร่ยาสูบ ร้องพรรคการเมือง หารือก่อนเลือกตั้งแก้ไขปัญหาเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ

Featured Image
ชาวไร่ยาสูบร้องพรรคการเมืองหารือก่อนเลือกตั้งแก้ไขปัญหาเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ 30,000 ครอบครัว

 

ก่อนถึงเวลาหย่อนบัตรเลือกตั้ง ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทยจาก 15 จังหวัดทั่วประเทศเดินหน้าร้องพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ อาทิ ประเด็นการถูกลดโควต้า 5 ปีติดปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ปัญหาเงินชดเชย และบุหรี่เถื่อนเป็นต้นหวังรัฐบาลใหม่จริงจังแก้ปัญหาอุตสาหกรรมยาสูบให้ยั่งยืน โดยมี4 พรรคการเมืองดังรับลูกโปรยยาหอมพร้อมผลักดันสนับสนุนแก้ไขปัญหาชาวไร่ยาสูบเต็มกำลัง

 

ชาวไร่ยาสูบถูกบีบบังคับให้หมดอาชีพ

นายกิตติทัศน์ ผาทอง ผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบทุกวันนี้กำลังย่ำแย่ในอดีตการทำไร่ยาสูบเป็นอาชีพที่ยั่งยืนสร้างงาน สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวพวกเราได้เป็นอย่างดี ไม่เคยต้องขอรับเงินช่วยเหลือใดๆ แต่ภายหลังที่มีการปรับขึ้นภาษียาสูบเมื่อปี 2560 เป็นภาษี 2 อัตราทำให้อุตสาหกรรมยาสูบได้รับผลกระทบทั้งระบบ โดยกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเกษตรกรชาวไร่ยาสูบเอง ที่ การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ปรับลดโควตารับซื้อใบยาสูบลงถึงร้อยละ 50 ถึง5 ปีติดต่อกัน ล่าสุดในฤดูกาลผลิตพ.ศ. 2565-2566 ยสท. ได้ประกาศลดโควตารับซื้อลงอีกร้อยละ 25 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่ยาสูบกว่า 30,000 ครอบครัวอย่างหนักเนื่องจากที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาโควตาลดลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว และยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวด้วย แม้กระทรวงการคลังได้อนุมัติวงเงินช่วยเหลือ 56.16 ล้านบาทตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบัน ชาวไร่ก็ยังคงไม่ได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้

 

“ชาวไร่ยาสูบยังคงต้องพึ่งพาการทำไร่ยาสูบ เพราะยังคงเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวไร่ในขณะที่ยังหาพืชทดแทนอื่นๆ ไม่ได้ แต่โควตารับซื้อใบยาก็ถูกลดลงเรื่อยๆ เพราะการแข่งขันด้านราคากับบุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตแย่งไปพวกเราอยากเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่ออุตสาหกรรมยาสูบของไทยมีความยั่งยืนสามารถแข่งขันในตลาดได้ จึงอยากฝากไปยังพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส. ให้แก้ไขปัญหาของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ เร่งรัดการจ่ายเงินชาวไร่เป็นความสำคัญอันดับต้นๆ ภายหลังที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว” นายกิตติทัศน์ กล่าว

 

ทุกพรรคเห็นพ้องควรมีการแก้ปัญหายาสูบอย่างเป็นรูปธรรม

 

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาโควตาใบยาสูบ เงินชดเชยชาวไร่ และกองทุนชาวไร่ไว้ว่า เห็นใจชาวไร่ยาสูบเพราะตนเองก็เป็นคนพื้นที่ปลูกยา ควรแก้ปัญหาที่บุหรี่เถื่อนและภาษีเพื่อชาวไร่ เนื่องจากการยาสูบแห่งประเทศไทยโดนแย่งตลาดโดยบุหรี่เถื่อนไปมากกว่าร้อยละ 25 ของบุหรี่ที่ขายในประเทศ หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะมีการทำเรื่องปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างแน่นอน

ด้านนายโอภาส อาลมิสรี ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ได้เสนอว่า ปัญหาเรื่องของยาสูบนั้นมาจากการเพิ่มภาษี ส่งผลให้บุหรี่ถูกกฎหมายมีราคาแพงและทำให้บุหรี่เถื่อนยิ่งทะลัก หากได้เป็นรัฐบาล จะเน้นย้ำเรื่องการปราบปรามบุหรี่เถื่อนเป็นหลัก เนื่องจากตนเห็นตัวเลขยอดจับกุมบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้นจาก 600,000 ซองในปีก่อนหน้าพุ่งเป็น 3 ล้านซองในปี 2565

 

นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย เสนอการแก้ปัญหาโดยการแก้ไขภาษีและเพิ่มมูลค่ายาสูบ โดยนายปริเยศชี้ว่า ปัจจุบันคนสูบบุหรี่ไม่ได้ลดลง และเชื่อว่าปัญหาในปัจจุบันเกิดจากภาษี เนื่องจากในภาพรวมแล้วกรมสรรพสามิตเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การยาสูบแห่งประเทศไทยมีรายได้ลดน้อยลง ส่วนเรื่องกองทุนชาวไร่ เชื่อว่าการเพิ่มมูลค่ายาสูบอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการมองไปที่กองทุน เช่น กรณีที่การยาสูบแห่งประเทศไทยทำยาสูบออแกนิคสำหรับใช้ในการแพทย์

 

ขณะที่นายณรงค์เดช อุฬารกุล ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอการแก้ปัญหาด้วยการกระจายอำนาจ ให้ชาวไร่ได้มีสิทธิตัดสินใจเอง และเสนอแนะการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดนนายณรงค์เดชกล่าวว่าปัญหานั้นมาจากการบริหารงานของการยาสูบแห่งประเทศไทย และตนเชื่อว่าควรมีชาวไร่ยาสูบอยู่ในบอร์ดบริหารด้วย รวมทั้งแก้ไขพรบ.การยาสูบให้มีหน้าที่ในการดูแลชาวไร่ยาสูบและทำให้ชาวไร่ยาสูบได้รับการดูแลที่เท่าเทียม นอกจากนี้ยังกล่าวว่าในปัจจุบันยังไม่มีคณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องใบยาสูบโดยเฉพาะ

 

จัดตั้งกองทุนชาวไร่ยาสูบ

นายสันต์หารสุโพธิ์ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งหลายๆพรรคต่างก็ออกมาบอกว่าจะดูแลพี่น้องชาวไร่ให้ไม่ลำบากขัดสนเราก็อยากให้มีคนเข้ามาดูแลชาวไร่ยาสูบอย่างจริงจังกว่านี้ปัจจุบันนี้เวลามีภัยธรรมชาติหรือชาวไร่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐเช่นการขึ้นภาษีก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลชาวไร่ยาสูบโดยตรงเราต้องพึ่งพาตัวเองและเรียกร้องเองมาตลอดเราอยากให้มีการจัดตั้งกองทุนชาวไร่ยาสูบที่เป็นรูปธรรมซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาและสร้างความยั่งยืนในอาชีพได้ ซึ่งเงินตรงนี้ก็ไม่ต้องไปเพิ่มงบประมาณใหม่แต่อย่างใด เพียงแต่ขอเสนอให้แบ่งงบประมาณมาจากกองทุนที่ได้รับเงินจากภาษียาสูบ เช่น สสส.หรือไทยพีบีเอสปีละหลายพันล้านมาให้ชาวไร่บ้าง

 

เช่นเดียวกับ นายประเสริฐสวนทรัพย์ นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์จังหวัดสุโขทัยเผยว่า“พืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นๆเขามีหน่วยงานคอยช่วยเหลือดูแลแต่ชาวไร่ยาสูบอย่างเราไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตรฯที่ชำนาญเรื่องของการเกษตรและเกษตรกรแต่ดูแลโดยกระทรวงการคลังซึ่งชำนาญเรื่องการเงินเวลาเจอปัญหาไม่วาจะเรื่องขึ้นภาษีหรือมีภัยธรรมชาติอย่างลูกเห็บถล่มทีไร ชาวไร่ยาสูบก็ต้องดูแลกันเอง ดังนั้นจึงอยากให้มีการจัดตั้งกองทุนชาวไร่ยาสูบซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงในอาชีพแทนที่จะมีปัญหาก็ไปแบมือขอเงินรัฐเหมือนอย่างที่ผ่านมา”

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube