บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ปอเรชัน หรือซิโนเปค (Sinopec) ลงนามข้อตกลงร่วมลงทุนกับบริษัทกาตาร์เอเนอร์จี (QatarEnergy) เพื่อเข้าถือหุ้น 1.25% ในโครงการนอร์ทฟีลด์อีสต์ (North Field East หรือ NFE) ของกาตาร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
หม่า หย่งเชิง ประธานบริษัทซิโนเปค และซาอัด เชริดา อัล-คาบี (Saad Sherida Al-Kaabi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของกาตาร์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอบริษัทกาตาร์เอเนอร์จี ได้ร่วมลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการในพิธีลงนามซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของกาตาร์เอเนอร์จีในกรุงโดฮา
“กาตาร์เอเนอร์จี ผู้ผลิตก๊าซแอลเอ็นจีชั้นนำของโลก เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของซิโนเปค และความร่วมมือระหว่างสองบริษัทจะช่วยส่งเสริมการปรับปรุงรูปแบบการใช้พลังงานของจีนให้เหมาะสมที่สุด ตลอดจนยกระดับความปลอดภัย เสถียรภาพ และความน่าเชื่อถือของแหล่งพลังงานสะอาด ด้วยความร่วมมือที่มีรากฐานมั่นคงแข็งแกร่งเช่นนี้ เราหวังว่าจะได้สำรวจโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างความร่วมมือด้านก๊าซแอลเอ็นจี รวมถึงขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันและเพื่อความก้าวหน้าของทั้งสองฝ่าย” หม่ากล่าว
พิธีลงนามในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ซิโนเปคและกาตาร์เอเนอร์จีลงนามในสัญญาซื้อขายก๊าซแอลเอ็นจีระยะยาว 27 ปีเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 เพื่อจัดหาก๊าซแอลเอ็นจีจำนวน 4 ล้านตันต่อปีให้กับซิโนเปค และบรรลุความร่วมมือแบบบูรณาการในโครงการนอร์ทฟีลด์อีสต์
ขณะเดียวกัน อัล-คาบี ระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในตลาดก๊าซธรรมชาติที่สำคัญที่สุดในโลก และเป็นตลาดสำคัญในการส่งออกผลิตภัณฑ์พลังงานของกาตาร์ สำหรับข้อตกลงร่วมลงทุนฉบับนี้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาของกาตาร์เอเนอร์จีที่จะกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าก๊าซแอลเอ็นจีรายใหญ่ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระยะยาวกับลูกค้าชั้นนำระดับโลกอย่างซิโนเปค โดยซิโนเปคเป็นบริษัทแรกในเอเชียที่เข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการนอร์ทฟีลด์อีสต์ และพิธีลงนามในครั้งนี้ถือเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างจีนกับกาตาร์
โครงการนอร์ทฟีลด์อีสต์ใช้เม็ดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 2.875 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะช่วยให้กาตาร์สามารถส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีได้มากขึ้น จาก 77 ล้านตัน เป็น 110 ล้านตันต่อปี
ความร่วมมือระหว่างซิโนเปคกับกาตาร์เอเนอร์จีจะช่วยตอบสนองความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในตลาดจีน ตลอดจนรองรับการเดินหน้าพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ ปลอดภัย และยั่งยืน
