เมืองเตี่ยนโถวของอำเภอฝูติงในมณฑลฝูเจี้ยน ได้จัดการประชุมการค้าชาขาวจีนเป็นครั้งแรก พร้อมกับเทศกาลชาขาวฝูติง ครั้งที่ 12 ขณะที่ชาฝูติง สปริง (Fuding Spring) เริ่มมีผู้เลือกเพื่อนำไปผลิตชาขาวมากขึ้น อำเภอฝูติง ในมณฑลฝูเจี้ยนเป็นพื้นที่ที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการผลิตชาขาวของจีน จนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งกำเนิดชาขาวในประเทศ
อำเภอฝูติงยึดอุตสาหกรรมชาเป็นเสาหลักในการบรรเทาความยากจนและฟื้นฟูชนบท โดยมุ่งพัฒนา “ชาคุณภาพสูง ชาจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชาระดับพรีเมียม” อำเภอฝูติงได้ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใน 5 ด้านด้วยกัน อำเภอฝูติงได้เข้ามาปรับปรุงผลกระทบของแบรนด์ชาขาวฝูติงอย่างต่อเนื่อง จนช่วยให้คน 380,000 คนในอุตสาหกรรมชาเพิ่มรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้นได้
อุตสาหกรรมชาขาวฝูติงพร้อมที่จะเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการพัฒนาตลาดต่างประเทศ ปรับปรุงการเพาะปลูกและมูลค่าแบรนด์ ขยายผลกระทบในระดับสากลของชาขาวฝูติง และขายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นด้วยราคาที่แข่งขันได้มากขึ้น
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ยูเนสโก (UNESCO) ได้เพิ่มเทคนิคแปรรูปชาแบบดั้งเดิมและแนวปฏิบัติทางสังคมที่เกี่ยวข้องในจีน รวมถึงเทคนิคการชงชาขาวฝูติง เข้าในรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นได้สร้างนิคมอุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่แห่งชาติ เพื่อส่งเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด และอำนวยความสะดวกในการฟื้นฟูชนบท โดยพิจารณาจากจุดแข็งด้านทรัพยากรการเกษตร (ชาขาวฝูติง) ที่ตั้ง ระบบนิเวศน์ การสร้างแบรนด์ ทุน วัฒนธรรม เป็นต้น พร้อมดำเนินมาตรการต่าง ๆ ทั้งการใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการเกษตร ลดภาษีและค่าธรรมเนียม และการสนับสนุนทางการเงิน
ในปี 2565 พื้นที่ปลูกชาประมาณ 305,000 หมู่ (ประมาณ 20,333 เฮกตาร์) พร้อมให้เก็บใบชาแล้วในฝูติง โดยมีผลผลิตชาทั้งหมด 31,000 ตัน รวมถึงชาขาว 23,000 ตัน มูลค่าผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมชาของฝูติงนั้นอยู่ที่ 1.3891 หมื่นล้านหยวน
