fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

“ชิปปี้” หายหน้า 3 ปี ช้ำรักเก่าจนป่วยซึมเศร้า แฮปปี้คุยหนุ่มนอกวงการ

Featured Image
ชิปปี้หายหน้า 3 ปี ช้ำรักเก่าจนป่วยซึมเศร้า แฮปปี้คุยหนุ่มนอกวงการ

 

ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉ หลังจรากหายหน้าหายตาเก็บตัวเงียบมาตลอดเกือบ 3 ปี สำหรับชิปปี้ ศิรินทร์ซึ่งเจ้าตัวเผยหลังจากผิดหวังจากความรักครั้งเก่า ก็รู้สึกซึมเศร้าโดยที่ไม่รู้ตัว จนต้องพบจิตแพทย์และรักษา แถมยังมีเอฟเฟ็กต์จากยาจนทำให้น้ำหนักขึ้น และถูกบูลลี่ว่าอ้วนจนเหมือนแม่ลูก่อน ส่วนตอนนี้ความรักครั้งใหม่แฮปปี้เวอร์

ตอนนั้นหนูเลิกกับแฟน เรารู้สึกว่าเราแพ้ อยู่คนเดียวจากที่มีแฟน แล้วกลายเป็นไม่มีใคร  ก็มีแต่เพื่อนแต่ปกติเวลาเรามีปัญหาอะไรเราก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนอยู่แล้วแล้วเราเลยรู้สึกว่าถ้ามีอะไรรู้สึกยังไงจะบอกใคร ก็เลยต้องทำหน้าที่เป็นนักสืบเหมือนในละครแต่เราก็ไม่ทำอะไรมากเพราะมีเพื่อนมาบอกเรา

 

ก็เคยเป็นซึมเศร้าโดยที่ไม่รู้ตัวเอง คือตอนนั้นรู้สึกว่าไม่รู้ทำไมคิดอะไรมันก็เศร้าไปหมดอะไรที่ชอบทำก็ไม่ชอบธรรมไม่มีเหตุผลดูหนังก็ร้องไห้ทำอะไรก็ร้องไห้พอหลังจากที่ร้องไห้บ่อยบ่อยก็เริ่มจะรู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่มีความสุขเลยไม่ว่าสิ่งที่เคยทำให้เรามีความสุขเราก็ไม่มีความสุขแล้วก็เลยคุยกับเพื่อนว่ารู้สึกไม่ไหวแล้วอีกวันเพื่อนก็เลยมารับไปโรงพยาบาลเลย ไปพบหมอจิตแพทย์ค่ะแค่คุณหมอถามคำเดียวว่าเป็นยังไงบ้างหนูก็สามารถร้องไห้ได้ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีใครมาถามว่าเราเป็นยังไงบ้างค่ะ

 

ตอนแรกมันทำให้น้ำหนักเราลงไปก่อนค่ะแล้วพอน้ำหนักมันเริ่มขึ้นมันก็ขึ้นเร็วมากจากตอนแรกที่เราต้องหาหมอทุกสองอาทิตย์เปลี่ยนเป็นทุกเดือนนึงก็ถามคุณหมอว่าทำไมน้ำหนักเราถึงขึ้นเร็วมากเพราะเราก็กินปกติคุณหมอก็บอกว่ามันเป็นเอฟเฟ็กซ์ของยามันไม่ใช่อ้วนตุ๊บแต่มันเป็นลักษณะบวมค่ะ

พอถ่ายรูปลงไอจีคนก็บูลลี่ว่าอ้วนเหมือนแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอดลูก แต่พูดตรงๆว่าคำว่าอ้วนไม่ได้ทำให้หนูไม่มีความสุข แต่พอมองกลับไปมันคือหน้าที่การงานที่เราต้องรับผิดชอบ ใครจะไปอยากดูนางเอกที่อ้วน เพราะหลังหยุดยามันก็ยังบวมอยู่ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาเป็นปีนะคะ กว่าที่จะกลับมาเข้าที่เหมือนเดิม

ฝตอนแรกไม่เห็นทางออกว่าจะยังไง แต่เราไม่เคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แค่รู้สึกว่าทำไมอะไรมันก็เศร้าจังเลย แต่เราก็พยายามที่จะคิดบวกและตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นคนที่มีความสุขสิ ก็เดินหน้าใช้ชีวิต ยามันไปปรับเคมีในสมองก็จริงแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องเชื่อในตัวเองว่าเราสามารถทำอะไรได้และเราจะทำสิ่งนั้นได้

โสดมาตลอดโดยที่ไม่คุยกับใครเลยมาสามปีกับความรักครั้งนี้เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน  แต่ก็พูดตรงๆว่าเขาไม่ใช่ไทป์หนูเท่าไหร่ หนูก็บอกเขานะ หนูชอบคนตาหวาน ตาสวยแล้วชอบมองตา หนูอาจจะดูหนังเยอะมากไปมั้ง ตอนแรกก็คิดว่าคงไม่ชอบเขาหรอก แต่ก็ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันก็ได้ ลองคุย ลองเจอ พอเราเจอแล้วเราก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนแหละ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย ความสัมพันธ์มันเริ่มพัฒนาเพราะว่าพอเราอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ เขาเป็นคนที่ซัพพอร์ทและตามใจ พอเรามานั่งคิด มันก็ไม่ได้เป็นความรู้สึกแบบป๊อบปี้เลิฟเหมือนตอนเด็ก แต่เป็นความรู้สึกที่เราสบายใจอยู่ด้วยแล้วเรารู้สึกเติมเต็ม จะไม่เปิดตัวจนกว่าเขาจะขอแต่งงาน ถ้าเขาไม่ขอแต่งงานก็ไม่ได้เปิดไงคะ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCmL7sBjm02WNURAOxGzq25w

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube