Home
|
บันเทิงไทย

เปิดใจอีกครั้งอดีตพระเอกดังยุค90’s อาทิตย์ ริว เผยวิกฤตชีวิตเซ่นพิษข่าวฉาว 

Featured Image
เปิดใจอีกครั้งอดีตพระเอกดังยุค90’s อาทิตย์ ริว เผยวิกฤตชีวิตเซ่นพิษข่าวฉาว จนคิดสั้นฆ่าตัวตาย 2 รอบนิกกี้ พิ้มโผล่เซอร์ไพร์สชวนร่วมงาน !!

 

อดีตตพระเอกยุค 90’s อาทิตย์ริวที่ตอนนี้ออกมาเปิดชีวิตหลังอำลาวงการไปนาน 17 ปีใช้ความรักนำทางจนทำชีวิตพังเกือบฆ่าตัวตายมาแล้วและประเด็นเรื่องลูกคนที่ซึ่งไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ที่มีพีเคปิยะวัฒน์และธัญญ่าธัญญาเรศเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตั้งแต่ข่าวออกตอนนี้กระแสเป็นไงบ้าง?

ริว : ไม่ได้ตามเลยครับไม่เคยดูโซเชียลอยู่แล้วไม่เคยติดตามอะไรที่เกี่ยวกับวงการบันเทิงมาก่อนเลยตั้งแต่ออกไปแล้วเกือบ 20 ปีแต่ก็มีดูบ้างข่าวของน้องๆพี่ๆที่อยู่ในกระแสเขาโอเคไหมเขาอยู่ในสภาพจิตใจแบบไหน

แต่เรื่องของเราเราไม่ดูเลย?

ริว : ไม่ดูตอนแรกที่ตัดสินใจให้คุณบอยวันบันเทิงมาสัมภาษณ์ผมคิดหนักนะว่าผมจะเปิดตัวยังไงจะให้คนอื่นเขาเห็นในสิ่งที่ริวในฐานะนักแสดงเก่าเป็นสภาพแบบไหนก็คิดว่าผมจะเปิดดีไหม

อะไรทำให้เราคิดได้ว่าอยากจะเปิด?

ริว : มีโอกาสได้คุยกับคุณบอยด้วยตนเองบอกว่ามีน้องโจ๊กบอกว่าเดี๋ยวพี่บอยจะมาหาเขาบอกแล้วแต่ผมก็เลยบอกว่างั้นนัดคุยกันก่อนขอคุยก่อนว่าบอยฟังข้อมูลแล้วจะเป็นยังไงทีนี้ก็คุยกัน 2 ชมจังหวะนั้นผมก็คุยกับทีมน้องที่เป็นตัดต่อช่องวันเขาบอกว่าพี่ริวเอาสักทีเถอะมันง่ายพี่วงการบันเทิงมันง่ายไม่ต้องมานั่งลำบากผมก็บอกกูพอใจนะโจ๊กที่มีรายได้วันละ 100-200 เขาก็อึ้งบอยเขาก็อึ้งเขาถามจริงเหรอค้าขายได้วันละ 100-200 พอให้มีค่ารถกลับหรือว่ามีอาหารมื้อนึงเขานั่งสัมฯเขานั่งน้ำตาคลอผมก็ทำไมอะชีวิตคนมันก็ต้องดิ้นรนผมเข้าใจแหละค่าตัวในวงการบันเทิงมันเท่าไหร่ผมก็เคยผ่านมา

แต่มันก็มีบางกระแสที่ย้อนกลับไปด่าอดีตต้นสังกัด?

ริว : เรื่องนี้ผมต้องกราบขออภัยเฮียด้วยนะครับผมไม่ได้มีเจตนาอะไรผมรักเฮียเหมือนเดิมผมไม่ได้พูดถึงในแง่ต่อว่าหรืออะไรแต่ในตอนนั้นผมให้สัมภาษณ์เพราะว่านั่นคือความรู้สึกจากใจผมที่ผมทำทุกอย่างเพื่อ RS ผมพยายามรักษาภาพลักษณ์ทุกอย่างในชีวิตส่วนตัวด้วยสุดท้ายจังหวะที่ผมบอกความเป็นจริงทุกคนอาจจะเข้าใจผิดคำว่าเฮียฮ้อแต่จริงๆบทบาทที่ผมจะได้เล่นละครใน RS คือเฮียเตี้ยเป็นน้องชายตอนนั้นผมมีความคุ้นเคยกับเฮียและมีความสนิทมากมีความผูกพันและเขาก็ดูแลผมดีมากทีนี้จังหวะที่ผมตัดสินใจจะออกจากวงการบันเทิงเป็นการปิดกล้องของละครวัยร้ายเฟรชซี่ที่มีน้องแดนน้องบิ๊ก B2B น้องอ้อนลักขณาเขาก็ดีใจฉลองปิดกล้องมันเป็นจังหวะที่ผมตัดสินใจเปิดเผยว่าจะเลือกเส้นทางนี้หรือเลือกชีวิตส่วนตัวผมก็เลยถือโอกาสนี้กราบขอโทษทุกท่านด้วยอย่าไปโจมตีเฮียฮ้อไม่ได้เกี่ยวกับเฮียฮ้อและผมก็ไม่ได้ไปโจมตีใครต้องกราบขออภัยด้วยครับเฮียเตี้ยครับผมขอโทษที่ผมพูดยังไม่ได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลกระทบ

จริงๆมันไปด้วยกันไม่ได้เหรอมีครอบครัวแล้วเราก็ทำงานไปด้วย?

ริว : สมัยก่อนดารายุค90’sการที่บอกว่ามีแฟนถ้าเราเป็นพนะเอกความนิยมของเขาจะน้อยลงเขาเกาะติดคล้ายๆไอด้อลพีะเอกของเขาทีนี้ถ้าพระเอกของเขาจะไปมีแฟนหรือว่าจะมีเรื่องของผู้หญิงเข้ามาเกาะแกะเขาจะหวง

ทำไมบอยถึงไปสัมภาษณ์ริว?

บอย : ปีที่แล้วเราทำข่าวพี่หมวยสุภาพรแล้วมีคนบอกว่ามีคนหนึ่งพี่บอยน่าจะไปช่วยให้เขามีสติแบบพี่หมวยนั่นคืออาทิตย์ริวเราบอกเรารู้จักเขาเราเคยสัมภาษณ์เขามานานแล้วตอนที่เขามีวิกฤติชีวิตแล้วเราจะคุยกับเขายังไงก็มีการติดต่อแต่ก็มีคนเตือนนะบ้านะเอามาออกทีวีจะคุยรู้เรื่องเหรอมันไม่ปกตินะเราก็เลยบอกน้องนัดริวไปเจอขอคุยก่อนริวจำได้ไหมวันที่เราไปเจอกันริวถามว่าทำไมมาคนเดียวไม่มีกล้องเหรอเราไม่กล้าบอกริวตรงๆเรากลัวมาแล้วไม่ได้อะไรเพราะเรากลัวริวคุยไม่รู้เรื่องวันนั้นเป็นวันแรกที่ไปนั่งคุยอยู่ 2 ชม.

ริว : เป็นสิ่งที่ผมโดนมาตลอดตั้งแต่สื่อทำแบบนี้กับผมคือทุกคนจะคิดระแวงระวังว่าการที่จะมาคุยกับริวเนี่ยมันบ้านะเพี้ยนนะมันมีประวัติเข้าโรงพยาบาลบ้านะอย่าไปยุ่งกับมันมันเพ้อเจ้ออย่างที่บอยมาเจอผมบอยก็ต้องดูก่อนว่าผมโอเคไหม

บอย : ข่าวลบเยอะแต่วันนั้นคุย 2 ชมกลับมาตอนสุดท้ายบอกริวพรุ่งนี้มาที่ตึกแกรมมี่ได้ไหมเราจะขอสัมภาษณ์ริวในวันนั้น 1.สภาพนั้นถ้าออกทีวีโดยที่ไม่เมคอัพเลยมันหลอนนะคนจะตกใจเพราะหน้าเขาก็มีสิวแล้วก็โทรมมากวันนั้น

ริว : บอยผมยังวัยรุ่นผมมีสิวแล้วอีกอย่างผมบวชมาผมเพิ่งสึก

บอย : เข้าใจเอาง่ายๆขอคุยก่อนวันนั้นประเด็นสำคัญที่อยากจะเอาชีวิตริวมาเล่าในวันบันเทิงมีเหตุผลเดียวผู้ชายคนนี้ขาดความรักและไม่มีคนนำทางหัวใจนั่นคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนตลอด 20 กว่าปีมันพังพินาศไปหมดเท่านั้นเลยแล้วรู้สึกว่าฟังริว 2 ชมทำไมผู้ชายคนนี้มีเรื่องที่สอนเราตลอดเวลาทุกเรื่องที่เขาคุยเราได้อะไรเยอะเราอยากจะแชร์ให้กับคนที่ติดตามข่าวบันเทิงมันจึงเป็นพาดหัวอันนึงเนาะชีวิตเราสอนชีวิตเรา

ที่บอกว่าริวขาดความรักเท่าที่ดูตอนนี้ริวมีลูก 3 คนกับอดีตภรรยาอันนั้นไม่ใช่ความรักเหรอ?

ริว : ก็เป็นความรักประเภทหนึ่งมันเป็นความรักที่ผมค่อนข้างปราถนาดีปราถนาดีกับตัวเองด้วยปราถนาดีกับเขาด้วยว่าอยากมีลูกอยากมีความรักด้วยกันอยากมีหัวแก้วหัวแหวนด้วยกันอยากจะประคับประคองครอบครัวไปด้วยกันอยากจะเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไปก็ตกลงว่าจะอยู่ด้วยกันนะแต่มันยังขาดช่วงระยะเวลาศึกษาดูใจในความเป็นตัวตนของแต่ละคนจริงๆอย่างบางคนเขาจะมองภาพในละครเขามองภาพความเป็นพระเอกเขาบอกริวต้องเป็นอย่างนี้ในละครริวเป็นอย่างนี้ฉันรักริวในคาแรคเตอร์นั้นแต่ตัวผมไม่ใช่ตัวผมมีความเป็นตัวเอง

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับความรักครอบครัวแรก?

ริว : ด้วยความที่ครอบครัวหมายถึงตัวภรรยาเองก็ต้องคาดหวังว่าผมน่าจะเป็นพระเอกจริงๆแต่ทีนี้ผมไม่ใช่ในชีวิตจริงผมยอมรับเลยผมเป็นคนเจ้าชู้แล้วผมก็พูดเลยตั้งแต่ก่อนคบว่าถ้าจะคบกับผมรับได้ไหมในความเจ้าชู้เขาก็บอกว่ารับได้ในความเป็นตัวริวผมถามว่าแน่นะถ้ารับได้ผมก็คบก็เลยตัดสินใจอยู่ตัวปัญหาเหล่านั้นผมไม่ได้จะพูดถึงว่าจบยังไงหรือมีปัญหายังไงแต่ผมพูดคร่าวๆว่าผมได้มีลูกกับเขาแล้วปัญหาในครอบครัวต่างๆนานาเกี่ยวกับเรื่องนู้นเรื่องนี้ผมจะไม่ขอพูดถึงเพราะว่าทุกวันนี้เขาก็มีชีวิตที่ดีแล้วลูกผมก็น่ารัก

แล้วกับประโยคที่ว่าริวรู้สึกว่าไม่มีคนรักจนทำให้คิดอยากฆ่าตัวตายอันนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?

ริว : พอหลังจากชีวิตความรักในครอบครัวไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากเรามองภาพสวยเกินไปถ้ามีลูกเราจะพาลูกไปตรงนั้นจะเลี้ยงลูกแบบนี้เราจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูกแต่งตัวให้ลูกอย่างนี้นะคนเป็นพ่อจะเป็นเราจะปูเส้นทางให้เขาเดินยังไงปรากฏว่าเส้นทางที่เราคิดกับความเป็นจริงมันสวนทางกัน

มันสวนทางเพราะภรรยาไม่คิดเหมือนเรา?

ริว : มันกลายเป็นความหึงหวงจากที่เขาบอกว่ารับได้เขาบอกว่ารับไม่ได้

แล้วอะไรที่เป็นจุดทำให้เราคิดฆ่าตัวตาย?

ริว : เนื่องจากพอผมจบพังทลายกับชีวิตครอบครัวลูกก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมีปากเสียงกันนิดหน่อยแล้วแยกย้ายกันและการที่ผมจะไปพบลูกถ้าผมไปในสภาพที่ผมไม่มีเงินซึ่งคนเป็นพ่อจริงๆก็อยากให้เงินเขาเราอยากดูแลเขาการที่ผมเจอทุกครั้งมันต้องใช้เงินผมก็จะรู้สึกว่าลูกผมเป็นตัวประกันหรือเปล่าแต่ผมก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นผมคิดว่าถ้าผมมีผมให้แล้วผมก็ให้จริงๆผมเซ็นเช็คทีละ 3 -4 แสนผมให้จริงๆเพราะไม่ได้บ่อยเลยที่ผมมีโอกาสเข้าไปเจอลูกแต่ทุกครั้งที่ผมเจอลูกกอดลูกมันมีน้ำตา

แสดงว่าไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้ง?

ริว : แน่นอนผมยินดีตอนนั้นผมมีเงิน

แล้วตอนที่เราแยกจากภรรยาและลูก 3 คนหน้าที่การงานเราเป็นยังไง?

ริว : ตอนนั้นดีครับเป็นออแกไนน์บริษัทใหญ่ผมจัดงานในอิมแพค

แล้วมันเริ่มพังตอนไหน?

ริว : เรื่องงานผมไปได้ดีมากเรื่องเงินทุกอย่างไม่มีปัญหาเลยแต่มีปัญหาเรื่องชื่อเสียงนี่แหละครับพอมันเป็นข่าวทุกคนก็เอากระแสเกาะติดกระแสสื่อโน้นก็เขียนอย่างนั้นแยกประเด็นผมบ้าผมเพี้ยนผมทำร้ายภรรยาประดังเข้ามาเป็นกระแสไวรัลอยู่ในยุคโซเชียลเริ่มต้นของสมัยนั้นที่เป็นสมาร์ทโฟนเข้ามามีเฟซบุ๊ก hi5 เข้ามากลายเป็นว่าหน้าจอตั้งอยู่แบบนี้แต่ความเครียดโผล่ให้เห็นของคนทั่วประเทศ

แสดงว่าชีวิตเราที่พังตอนนั้นไม่ใช่ครอบครัวไม่ใช่ลูก 3 คนไม่ใช่อดีตภรรยาแต่เป็นเพราะโซเชียลเพราะสื่อ?

ริว : แต่ผมจะไม่โทษโซเชียลเพราะโซเชียลจะเป็นฟรีความคิดเห็นของคนว่าความรู้สึกผมเอ๊ะอ่านข่าวนี้เขาจะเชื้อหรือไม่จะให้กำลังใจหรือด่าอันนี้ผมไม่เคยว่าแต่ผมก็บอกกับตัวภรรยาแล้วว่าอย่าไปสนใจได้ไหมกับกระแสพวกนี้มันนานาจิตตังตัวผมเองทำงานในวงการบันเทิงผมรู้สิว่าถ้าเราไปแคร์มากกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์แสดงว่าผมคงไม่ต้องทำงานอะไรแล้วยอมแพ้ในชีวิตเพราะฉะนั้นเรื่องงานผมสำคัญมาก 1.การเป็นพระเอกไม่ง่ายเพราะฉะนั้นเวลาข่าวอะไรมากระทบแน่นอนแต่สื่อมวลชนรู้ไหมถ้าเป็นตัวคุณเองครอบครัวคุณเองมีคนไปเขียนเรื่องคุณแต่โอเคคุณไม่ใช่ดาราไม่ใช่ศิลปินแต่ตัวคุณเป็นคนเขียนนามปากกาคุณคุณเคยรับผิดชอบอะไรไหมในชีวิตที่มันพังไปหนังสือขายได้เย้

แสดงว่าจุดที่เราคิดว่ามันพังจริงคือการที่เกิดขึ้นจากที่สื่อมวลชนเขียนข่าวพาดหัวข่าว?

ริว : สื่อบางคนเขาก็ดีอย่างเช่นคุณบอยเนี่ยเขาบอกอย่างนี้ดีนะเขาจะช่วยเรานี่สิเขามีจรรยาบรรณเขามีหัวใจเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคนเป็นเพื่อนต้องคิดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าจับข่าวนี้โดนแน่สื่อมวลชนคิดว่าตัวเองใหญ่มากอย่าคิดว่าตัวเองใหญ่

จากข่าวที่มันเกิดขึ้นอันนี้ทำให้เราคิดจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย?

ริว : ด้วยบาดแผลตรงนั้นมันหนักมากคือพาดหัวว่าริวเพี้ยนเข้าโรงพยาบาลบ้าสัมภาษณ์รายการปากโป้งพี่หนุ่มกรรชัยเอาข้อมูลจากที่ต่างๆริวไปแก้ผ้าด่าศูนย์ AIS แต่การที่ใช้ปากพูดออกสื่อเนี่ยผมถามหน่อยคนบ้าอะไรจะไปแก้ผ้าด่า AIS ขับเบนซ์คันเบอเร่อไปเสียค่าโทรศัพท์ 2 พันถึงขนาดต้องโมโหแก้ผ้าเหรอ

ที่มันรวมกันมามันก็ทำให้เราถึงจุดหนึ่งที่ทำให้เราจะฆ่าตัวตายกระโดดตึก?

ริว : ด้วยความที่คนอื่นแบบอย่าไปคุยกับริวริวมันบ้าแสดงว่าไปติดข้อมูลเก่าในสื่ออินเตอร์เน็ตไม่เคยมีใครแก้ให้เลย

ในฐานะสื่อพี่บอยฟังแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?

บอย : มันเป็นอย่างที่ริวพูดเวลานั้นตอนนั้นข่าวมันไปในทางนั้นแล้วคำนึงที่ริวไม่ได้พูดแต่มันอยู่ในความรู้สึกการปล่อยข่าวช่วงนั้นก็คือพระเอกวัยรุ่นทรยศแฟนคลับซุกลูกซุกเมียอันนี้เป็นคำที่คิดว่าน่าจะอยู่ในใจริวแล้วก็เป็นบาดแผลในหัวใจเขาแล้วมันเป็นเรื่องจริงจำได้ไหมริวที่เราถามริวรักษาอาการป่วยทางจิตอย่างไรบอยไม่เรียกว่าเขาบ้านะเขาเล่า 5 โรงพยาบาลในรอบ 10 ปีเขารักษาเขาป่วยเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าวงการมันมีหลายเรื่องที่บีบคั้นหัวใจเขา

ริว : คุณบอยรู้ไหมว่าผมป่วยเพราะอะไร

บอย : เพราะ

ริว : ป่วยเพราะสื่อมวลชนนี่แหละทำผมไว้ผมรักมากนะวงการบันเทิงเป็นครอบครัวผมเป็นบ้านผมแต่บ้านหลังนี้เมื่อคนเอามีดมาแทงผมเพื่อจะขายข่าวผมรู้สึกว่าคนในบ้านเมื่อญาติพี่น้องยังจะทำร้ายกันเองในยามที่เราเพรี่ยงพร้ำแทนที่จะประคบประหงมน้องริวไปทางนี้นะน้องริวดูแลลูกเราสร้างภาพพ่อที่ดีก็ได้นะเดินไปในทางอบอุ่นของครอบครัวเลี้ยงดูลูกพาลูกไปนู้นนี่ก็ยังดีกว่าริวมันเพี้ยนบ้านแม่งพัง

พอฟังแบบนี้พี่บอยคิดว่าสื่อมวลชนจะฆ่าคนคนหนึ่งได้เลยไหมข่าวลบฆ่าคนได้ไหม?

บอย : เรารู้อยู่แล้วว่ามันทำลายความรู้สึกแต่ริวเป็นกรณีแรกในการเป็นนักข่าวตลอด 20 กว่าปีว่านี่คือตัวอย่างของสื่อในยุคนั้นซึ่งเราเองก็เป็นสื่อในยุคนั้นสื่อเวลาพาดหัวเวลาเขียนข่าวมันมีพลังกับคนสมัยนั้นคนเชื่อสื่อเยอะมากเวลาสื่อออกข่าวไปอย่างที่ริวเจอซุกลูกทรยศแฟนคลับมันเป็นคำที่อยู่ในใจริวและนั่นคือ 2 ชม.แรกในวันแรกที่เจอแล้วมันมีคำนี้มาหาเราเรารู้สึกมันเป็นแบบแผลในใจเขาเราทำด้วยหรือเปล่าเราถามตัวเองนะวันรุ่งขึ้นเราถึงได้มาสัมภาษณ์ริวที่แกรมมี่แต่เรามานั่งทบทวนในคืนนั้นว่าเราจะสื่อสารเรื่องริวอย่างไรให้ดีและคนเข้าใจในความเป็นริวและบอยยืนยันวันที่ไปคุยก่อนสัมภาษณ์จริงเขาไม่ได้บ้าเขาน้อยใจแต่เขาน้อยใจและประชดชีวิตและไม่รู้จะไปพึ่งใครเพราะมันเค้วงมาก

ริว : มันก็กลายเป็นว่าทั้งสื่อทั้งครอบครัวเรารวมกันทำร้ายตอนนั้นตัวผมเองก็ชื่อเสียงในยุค90’s เล่นเป็นพระเอกทางบ้านเองบอกว่าถ้ามึงเป็นอย่างนี้กูก็ทำลายชื่อเสียงมึงได้สรุปแล้วผมก็ไม่เหลือใครแล้วจริงๆในช่วงนั้นผมคิดก่อนเลยว่าไปทำบุญดีก่อนไหมก็ขับรถไปวัดทำบุญ 2 ล้านบาททีนี้ผมไม่ต้องทำอะไรแล้วในเมื่อเรื่องเงินเรื่องทองมันสำคัญกับทุกคนมากก็คิดว่าถ้ามีเงินมีทองแล้วมันขนาดนี้ไม่เอาดีดว่าไหมผมไปเคาท์ดาวน์เชียงรายผมก็พกเงินตัวเองในกระเป๋าไปประมาณล้านกว่าบาทไปกินเบียร์ฉลองพอเค้าท์ดานน์ผมไม่เอาอะไรกับชวิตคิดว่าจะไปเตะขอบฟ้าพอแล้วปีใหม่ผมจะเป็นคนใหม่ก็ควักเงินมา 2 แสนพอนับถอยหลัวผมก็โยนเงิน

ครั้งหนึ่งที่เราอยากฆ่าตัวตาแต่ก็รอดตรงตรงน้่นมาได้เพาาะเรายังอยากเป็นพ่อของลูกๆอยู่?

ริว : มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้พูดเพราะผมเป็นบุคคลหนึ่งที่เคยจะฆ่าตัวตายไม่อยากอยู่แล้วคิดตัดสินใจว่าตอนนั้นมีการศึกษาด้วยนะว่าคนฆ่าตัวตายกระโดดที่ไหนแล้วตายต้องดูข่าวผมต้องคำนวนความสูงคำนวนระยะเวลาว่าเขาโดดตอนกี่โมงแล้วเขาทำสำเร็จได้ยังไงผมเช็กข่าวแล้วเดินทางไปจุดนั้นจริงๆผมพยายามอยู่ 2 ครั้งผมไป 2 วันติดครั้งแรกผมไปชั้นจอดรถของเดอะมอล์บางกะปิผมก็มองตรงนี้ผ่านไหมอุ้ยรถผ่านเดี๋ววเดือดร้อนคนอื่นแล้วถ้าคนเดินผ่านมากูไปทับเขาตายกูก็บาปอีกล้มเลิกวันที่ขอเช็กก่อนว่ามีใครรักกูไหมแต่ก็ยังไม่มีสัญญาณชีพบองความรักเกิดขึ้นยังไงเธอก็จะจากฉันไปให้ได้งั้นเอาวันนี้แหละวันที่เขาเดินทางไปต่างประเทศ

แล้ววันที่ตัดสินใจว่าเอาแล้ววันนี้จะฆ่าตัวตาย?

ริว : แน่นอนวันนี้เป็นวันพิฆาตตัวเองเพราะไม่มีสัญญาณชีพของความรักเกิดขึ้นทั้งที่ผมให้ความสำคัญมากจนชีวิตนี้คงจะหาไม่แล้วพอแล้วไม่อยากอยู่แล้วก็ไปที่จุดจุดหนึ่งยืนสูบบุหรี่มองตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่สำเร็จได้รอจังหวะนับในใจยามก็เดินมาดูผมก็บอกไม่มีอะไรดูนกดูไม้กลัวเขามาล้อมผมเพราะผมยืนนานมากประมาณ 3 ชมคือตัดสินใจว่าจังหวะนั้นต้องไม่ใครผ่านมาแล้วต้องไม่มีรถต้องลงในจุดไหน

แล้วอะไรที่ทำให้เราเปลี่ยนใจ?

ริว : จังหวะนั้นสูบบุหรี่จนหมดซองตัวสุดท้ายคิดว่าตายแบบไหนให้ดวงจิตมันไปดีๆก็คิดว่าตายแบบมีความสุขก็ได้นะได้หมดตัวนี้กระโดดเลยทันทีจังหวะทิ้งบุหรี่ทิ้งลงข้างล่างนะดูว่าตำแหน่งบุหรี่จะตกตรงไหนดูทางลมนิดนึงอย่าออกไปตรงหญ้านะเดี๋ยวไม่ตายพิการอย่าไปติดต้นไม้ต้นไหนนะเดี๋ยวกลายเป็นภาระคนอื่นอีกเอาละบุหรี่ลงสุดวางโทรศัพท์เตรียมปีนแล้วสักพักโทรศัพท์มาแฟนโทรมาผมก็รับเขาถามพี่อยู่ไหนทำไมติดต่อไม่ได้เลยก็ไม่ได้เปิดเครื่องเพิ่งเปิดเมื่อกี้แล้วโทรมาทำไมพี่อยู่ไหนอยู่ลานจอดรถพี่ไปทำอะไรพี่กำลังจะกระโดดเขาบอกพี่จะบ้าเหรอพี่ขอร้องพี่อย่าบ้าเขาก็ดุผมแล้วเขาร้องไห้ขอร้องอย่าทำตอนนั้นผมก็ร้องไห้เขาก็รักเราวะพี่เดี๋ยวหนูโอนเงินให้พี่ 2 พันกลับบ้านนะมึงรักจริงปะเนี่ย

แล้วใช่แฟนคนนี้ไหมที่เรามีลูกแล้วคิดว่าลูก?

ริว : ไม่ใช่ก่อนผมจะกระโดดผมโทรไปหาอาม่านะถามว่าอาม่าสบายดีไหมดูแลลูกผมดีๆ

จริงๆเคยร่วมงานกันมาก่อนไหมสมัยวัยรุ่น?

ริว : ก็อยู่ RS ผมเป็นพิธีกรเขาเป็นศิลปิน

ตอนนั้นสนิทกันไหม?

นิกกี้ : ไม่ได้สนิทมากแต่ว่ามีการเจอกันบ้างพูดคุยกันบ้าง

แล้วพอเห็นข่าวอะไรทำให้โพสต์ริวมีอะไรให้ผมช่วยเหลือ?

นิกกี้ : สำหรับผมมันไม่จำเป็นต้องสนิทสำหรับริวผมไม่ติดอะไรเพราะตัวผมเองผมเกเรมาก่อนแล้วสิ่งที่เขาน่าจะเผชิญอยู่ผมเคยผ่านมาหมดแล้วพอวันนี้ผมตั้งตัวใหม่ได้ผมก็รู้สึกว่าควรจะให้โอกาสคนที่เขาต้องการความช่วยเหลือนั่นก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแล้วโพสต์ไปแล้วตามหาเขาก็ตั้งใจจริงๆ

ที่ตั้งใจคือตั้งใจช่วยในด้านไหนบ้าง?

นิกกี้ : คือถ้าคนให้เงินคงจะหมดแล้วแหละเพราะเขาต้องไปใช้ในชีวิตประจำวันถ้าคิดว่าจะช่วยก็ต้องให้สุดก็คิดว่าจะสร้างงานให้เขาก่อนเดี๋ยวจะเอาเขามาทำงานกับองค์กรผมอาจจะมาช่วยทำรายการช่วยขายของ

น้อยคนที่จะเหมือนกับนิกกี้ความรู้สึกข้างในเราเป็นยังไง?

ริว : ผมมีความรู้สึกว่านี่ขนาดเราคุยกันน้อยๆนะเนี่ยพอเขาได้เห็นข่าวพอเขาประกาศนิกกี้เขาชัดเจนทุกเรื่องอย่างน้อยเขาคล้ายๆผมอย่างนึงถ้าผมตัดสินใจแล้วหรือจะช่วยใครผมจะช่วยทันที

ตอนนี้พร้อมจะมาทำงานกับนิกกี้ไหม?

ริว : ยังไม่ได้คุยเลยยังไม่รู้ว่านิกกี้เขาคิดอะไรอยู่วันนี้ก็เซอร์ไพร์สเหมือนกันว่ามาอยู่ในรายการแต่ก่อนหน้านี้ทราบแล้วว่านิกกี้ตามหาอยู่

อยากจะบอกอะไรริว?

นิกกี้ : ผมเป็นคนที่ถ้าพูดไปแล้วก็ต้องทำพอรายการทักมาโอเคมาเซอร์ไพรส์ริวผมก็ยกเลิกทุกอย่างแล้วมาคือผมก็ไม่ได้องค์กรใหญ่อะไรมากแต่ผมเชื่อว่าถ้าเขาได้รู้คุณค่าของตัสเองได้กลับมาทำงานได้เห็นศักยภาพของตัวเองชีวิตเขาจะรู้สึกภูมิใจในการที่เขาจะหาเงิน

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์อาทิตย์ริว

https://youtu.be/hITxIkrIN0E

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

 

Twitter : https://twitter.com/innnews

 

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

 

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube