บันเทิงไทย

วิถีอากาเซ่ “ตั้ม วราวุธ” คลั่งรัก “แจ็คสัน หวัง” ตามติดใกล้ชิดติดขอบเวที

30 พฤศจิกายน 2022 - 13:17

วิถีอากาเซ่ “ตั้ม วราวุธ” คลั่งรัก “แจ็คสัน หวัง” ตามติดใกล้ชิดติดขอบเวที สู้ชีวิต! ทำงานเก็บเงินซื้อบ้านในวัย 28

มาเมืองไทยครั้งนี้สร้างความฮือฮาไปทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ สำหรับศิลปินหนุ่มระดับโลก “แจ็คสัน หวัง” หรือ “แจ็คสัน GOT7” รวมถึงนักร้องนักแสดงหนุ่ม “ตั้ม วราวุธ” ที่ถึงขั้นยอมซื้อบัตรเข้าไปชมคอนเสิร์ตติดขอบเวที ล่าสุดได้มาเปิดใจเรื่องนี้ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ช่องเวิร์คพอยท์ 23 กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมทั้งอัพเดทเรื่องบ้านที่กำลังสร้างตอนนี้ใกล้เสร็จแล้ว

“ไปดูครับผมชอบมาก ผมถึงไปกับทุกโชว์จนทำให้ผมไม่มีคลิปไม่มีรูปเก็บกลับมาเพราะผมตั้งใจดูมาก ซึ่งบางวันแต่ละโชว์อาจจะไม่เหมือนกันจนทำให้เราต้องเก็บครบทั้งสามวัน อย่างบางวันพี่แจ็คเค้าจะถอดเสื้อวันที่สองเค้าก็ไม่ได้ถอดมันทำให้เราต้องเก็บทุกวัน อย่างผมเสียดายมากที่ดูแค่วันเดียว ฟินครับถึงขั้นผมซื้อบัตรราคา 5,500 ผมเริ่มเป็นแฟนคลับเค้าตั้งแต่ช่วงโควิด และปกติเวลาผมดูวงไอดอลเกาหลีคงจะจำหน้าใครไม่ค่อยได้ เพราะหน้ามันจะขายกันหมดในเรื่องความเต้นเป็ดของเขามันก็จะเหมือนกันหมดเลย แต่ GOT7 เป็นวงเดียวที่ผมจำได้ เค้าจะเป็นวงไอดอลที่ท่าเดียวกันแต่ลายคนละแบบ เราก็เลยจำได้ง่ายเลยตามและดูคลิปเก่าๆ ตอนช่วงโควิด เค้าจะเป็นคนที่หล่อแต่ไม่ค่อยห่วงหล่อสักเท่าไหร่จะมีความตลกขี้อำขี้เล่น อย่างเล่นเกมก็ชอบเอาชนะ จริตตรงกันคล้ายกัน”

.ชอบมากถึงขั้นไปรับที่สนามบิน คือในช่วงนั้นที่เค้ามาผมพลาดไปหลายงาน อย่างมีงานที่เค้าจัดที่เราจะได้ไปเป็นปาร์ตี้ของเขาและมีการ์ดเชิญ ผมไม่ได้ไปผมติดถ่ายรายการ แล้วก็มีงานพี่เค้าเป็นพรีเซนเตอร์ติดต่อมาให้ผมไปผมก็ไม่ได้ไปเพราะไม่ว่าง เพราะว่าติดงาน คือชีวิตผมที่จะได้เจอเขาไม่เป็นสนามบินก็ต้องเป็นคอนเสิร์ต”

“ของผมเป็นนักสู้อ่ะเริ่มจากดิน อยู่บ้านต่างจังหวัดที่เป็นดินสีแดง สู้มาตลอด แต่ผมรักการเอนเตอร์เทนชอบทำให้คนอื่นยิ้มชอบทำให้คนอื่นสนุก ซึ่งไม่คิดแต่แรกว่าเราจะต้องมาเป็นดารา มันเหมือนสู้ก็สู้ แต่สู้โดยไม่รู้ตัว สู้จากความรัก คือสู้แล้วเราสนุกไปกับมันด้วยจนในที่สุดทำให้เราได้เป็นเดอะสตาร์ จากนักร้องสู่การเป็นพิธีกร ตอนแรกรู้สึกว่าทำไม่ได้เพราะเราเป็นคนพูดเหน่อซึ่งคนที่จะเป็นพิธีกรมันจะต้องพูดกลางได้ต้องไม่เหน่อ เพราะเดี๋ยวคนต่างจังหวัดจะมาว่าเอา หรือไม่ถ้าคนกรุงเทพฟังแล้วเค้าขัดหูมันก็ไม่น่าได้”

“เริ่มมาจากรายการ 4 โพดำ ที่กลายเป็นพิธีกรโดยไม่รู้ตัว และเราก็มาร้องเพลงทำโชว์เล่นละครสนุกสนานตลกเฮฮาซึ่งมันก็จะต้องมีการเปิดและการปิดรายการอันนี้เราก็ได้เรียนรู้จากตรงนั้น “พี่บอย ถกลเกียรติ” ก็เคี่ยวเข็ญ กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็โดนเยอะ ตอนนี้ก็เลยมีทั้งหมด 3 รายการแล้ว สนุกครับ ชอบครับ มีความสุขกับการเป็นพิธีกร ซึ่งก็มีทั้งรายการที่เรารู้สึกถนัดมากกับรายการที่เรายังไม่ค่อยถนัด ถ้ารายการที่เรายังไม่ถนัดก็ต้องทำการบ้านเยอะหน่อย เราก็ต้องหาจังหวะที่ต่อสู้กับสิ่งที่เราไม่ถนัด”

“ทำเพราะเงินครับ เพราะผมเลือกไม่ได้ คือผมเป็นคนชอบลั่น บางรายการที่ค่อนข้างซีเรียสและเซนซิทีฟก็จะกังวลไปเองกลายเป็นเกร็งกลัวจะผิดกลัวจะไม่ได้กลัวจะไม่ดี กลัวอะไรที่ออกไปแล้วมันจะกลายเป็นดราม่าผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อน ตอนนี้ก็กำลังสร้างบ้านอยู่ ก็ต้องขอบคุณตัวเองขอบคุณสัญชาตญาณตัวเองขอบคุณพ่อแม่ด้วยที่เลี้ยงให้เราเป็นแบบนี้และเราก็สู้มาเป็นแบบนี้ มองย้อนไปผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ผมพลาด เพราะสิ่งที่ทำให้ผมพลาดทำให้ผมประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้”