นับถอยหลัง APEC CEO Summit 2022 ภาคเอกชนประกาศความพร้อมเวทีประวัติศาสตร์ “สี จิ้นผิง” ตอบรับขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ในงาน เปิดโอกาสลงทุนไทย
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ APEC CEO Summit 2022 Chair ประธานจัดงาน เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้านในการจัดประชุมระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายนนี้ โดยที่ประชุมมีการจัดการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้านทั้งทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและสังคม โดยมีผู้นำองค์กรระดับโลก รวมถึงผู้นำทางความคิดและ CEO ของทุกเขตเศรษฐกิจเข้าร่วมการประชุมและแสดงวิสัยทัศน์ โดยเวทีการประชุม APEC CEO Summit ในครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ตอบรับขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ภาคเอกชนรวมถึงประชาชนชาวไทยจะได้มีส่วนร่วมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตอบรับเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ทางเวทีได้เชิญผู้นำเขตเศรษฐกิจในการเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 13 เขตเศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทยขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ และสำหรับผู้นำเขตเศรษฐกิจที่ยืนยันอย่างเป็นทางการเข้าร่วมงานแล้ว อาทิ ประธานาธิบดีเปรู,ประธานาธิบดีเวียดนามรวมถึงนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย
และสำหรับบทบาทในการเป็นเจ้าภาพในปีนี้ มีนัยยะที่น่าสนใจในด้านสถานการณ์ ด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้านไม่ว่าจะเป็นภาวะการขาดแคลนอาหาร วิกฤตพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อหรือการฟื้นตัวจากโควิด 19 สิ่งเหล่านี้ทำให้ภาคเอกชนมีความตื่นตัวเป็นอย่างมาก และเวที APEC CEO Summit จะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนทิศทางครั้งสำคัญของโลกและจะเป็นโอกาสอันดีของไทยในการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจหลังภาวะการแพร่ระบาดของโควิด 19 สิ้นสุดและเริ่มมีการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. กล่าวว่า เวทีดังกล่าวจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย สิ่งที่ดึงดูดลงทุน ความต้องการต่างๆ ผู้นำจากทุกประเทศรวมถึงผู้นำทางธุรกิจ จะได้มีโอกาสสะท้อนความต้องการ และความพร้อมในเรื่องของการแก้ไขกฎหมายกฎระเบียบทั้งของไทยและประเทศอื่นๆให้สามารถเชื่อมโยงได้ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจถือเป็นประโยชน์ร่วมกัน
โดยเฉพาะประเทศไทยถือเป็นการสร้างโอกาส เพราะนอกจากการท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างประเทศมีความจำเป็น และต้องเข้ามาให้เร็วที่สุด ซึ่งการถือครองอสังหาริมทรัพย์จะทำให้การเข้ามาลงทุน เร็วขึ้นแต่สิ่งที่กังวลคือประชาชน จะเข้าใจว่ารัฐบาลมีมาตรการออกมาเป็นการขายชาติ ซึ่งเอกชนเองจะทำหน้าที่ในการให้สถาบันการศึกษาไปศึกษาถึง ประโยชน์ที่ประเทศไทยและประชาชนจะได้ รวมถึงข้อเสียอะไร โดยผลการศึกษาน่าจะแล้วเสร็จหลังการประชุมเอเปค เชื่อว่าประเด็นที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนอยู่ ไม่ใช่การขายชาติ และมั่นใจว่าทุกรัฐบาลต้องการที่จะขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
