fbpx
Home
|
อาชญากรรม

สาวจีนช็อค เสพยาในผับรัชดา

Featured Image
หญิงชาวจีนช็อคเสียชีวิต จากการเสพยาในผับดังย่านรัชดา หลังเกิดเหตุ จนท. ผับงัดห้องไปเผาของใช้ผู้ตายเพื่ออําพรางคดี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงสาวชาวจีน อายุ 32 ปี ชาวจีน เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับเพื่อนอีกสามคน เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลุมพินี ต่อมาทั้งสี่คนได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงดังแห่งหนึ่งแถว ถ.รัชดาภิเษก และเรียกเพื่อนชายมาเพิ่มอีกสามคน เพื่อมาเอนเตอร์เทน หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง หญิงสาวชาวจีน มีอาการอาเจียนและช็อคหมดสติ เจ้าหน้าที่ของร้านจึงรีบนําส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงได้ประสานทางสถานทูตจีนในไทยให้ขอความช่วยเหลือมายัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์. หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อช่วยเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากสถานทูต ได้เร่งดําเนินการตรวจข้อเท็จจริงต่างๆ พบว่ามีการใช้สารเสพติดก่อนเสียชีวิตโดยแพทย์ตรวจพบสารแอมเฟตามีนในร่างกาย จึงคาดว่าเพื่อนผู้ตายที่ไปเที่ยวด้วยกันมีการใช้สารเสพติด หลังจากนั้นมีกลุ่มชายจํานวนสี่คนเป็นชาวจีน 3 ชาวไทย 1 ซึ่งเป็นคนของผับดังแอบนําคีย์การ์ด เข้าไปเก็บข้าวของผู้ตายในห้องพักไปเผาเพื่ออําพรางคดี จึงสั่งการให้ สน.ลุมพินี เจ้าของท้องที่ ให้ดําเนินคดีกับชาย 4 คนที่นําข้าวของผู้ตายไปเผา ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทําให้เสียหาย ทําลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทําให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งหลักฐานในการกระทําผิด” ปัจจุบันถูกขังอยู่ในเรือนจํา

สําหรับชาวจีนเมื่อออกมาจะผลักดันออกนอกประเทศและไม่ให้เข้ามายังไทยอีก ส่วนชายเอนเตอร์เทนสามคน พบว่า เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้สั่งเพิกถอนวีซ่าและผลักดันออกนอกประเทศไป

ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร. ฝากไปยังสถานบันเทิงทั่วประเทศว่าให้คุมเข้มเรื่องการใช้ยาเสพติดหากพบผิดจะสั่งปิดให้หมด โดยคดีนี้เกิดขึ้นกับชาวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไทย ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งดําเนินคดีกับผู้กระทําผิดทั้งหมดแล้ว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัยให้กับประเทศไทย เพื่อนักท่องเที่ยวจะได้มั่นใจและกล้าที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยกันมากขึ้น

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube