ลูกจ้างบริษัทเอกชน วอนคู่กรณีขับเก๋งเฉี่ยวชนตนเองและพ่อบาดเจ็บก่อนหลบหนี เข้ามาพูดคุยอย่าหลบหนี เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์รถเก๋งสีขาวเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้ นายจิรพงศ์ และ น.ส.สุฑารัตน์ อายุ 26 ปี ลูกจ้างบริษัทเอกชน ได้รับบาดเจ็บก่อนที่รถคู่กรณี จะขับหลบหนีมุ่งหน้าถนกำแพงเพชร 2 ขาเข้า มุ่งหน้าสถานีขนส่งหมอชิต 2 เมื่อเวลา 07.45 น.ของวันที่ 17 ต.ค.65 ที่ผ่านมา
น.ส.จุฑารัตน์ เล่าว่า เช้าวันเกิดเหตุระหว่างที่ตนเองกับพ่อขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน ซึ่งอยู่เลนซ้ายสุดแต่แล้วจู่ๆก็มีรถเก๋ง ขับมาเฉี่ยวชนด้านหน้ารถ บริเวณ กม.11 ถนนกำแพงเพชร 2 ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้านรถไฟๆ กระทรวงพลังงาน เขตจตุจักร ทำให้รถตนเองเสียหลักล้มลง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและขับรถจักรยานยนต์ตามคู่กรณีไปประมาณ 100 เมตรและจอดขวางทั้งๆที่ตนเองและพ่อได้รับบาดเจ็บอยู่
โดยพ่อก็ไปยืนขวางหน้ารถไว้ ส่วนตัวเองไปยืนเคาะกระจกบริเวณที่นั่งคนขับเพื่อให้คนขับลงมาเจรจาแต่ปรากฎว่าคนขับพยายามเร่งเครื่องพุ่งชนพ่อทำให้ต้องกระโดดหนี จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ได้ขับหลบหนีไปตามเส้นทางมุ่งหน้าถนกำแพงเพชร 2 หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สน.บางซื่อ พร้อมวิงวอนขอให้คู่กรณีเข้ามาพูดคุยเจรจาและแสดงความรับผิดชอบ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวสามารถพูดคุยกันได้ไม่ใช่หลบหนีเพราะทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ นางทองจันทร์ มาโนช อายุ 60 ปี แม่ค้าขายของข้างถนน เล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุได้ยินเสียงคนเอะอะเสียงดังอยู่กลางถนนพร้อมกับมีชาย 1 คน พยายามยืนขวางจับหน้ารถ เพื่อไม่ให้รถเก๋งขับออกไปได้ ส่วนผู้หญิงก็ยืนอยู่ข้างคนขับ พร้อมตระโกนเสียงดังให้คนขับลงมาพูดคุย แต่คนในรถไม่ยอมลงมาเจรจาแต่พยายามเร่งเครื่องและขับหลบหนี พร้อมระบุว่า ส่วนตัวเป็นแม่ค้าอยู่ในพื้นที่มานานแล้ว เห็นอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสัญญาณไฟจราจรมาติดตั้ง เพราะว่ามีประชาชนต้องข้ามถนนไปยังสถานีรถไฟฟ้าจำนวนมาก
ในส่วนของคดีทางพนักงานสอบสวนหลังจากที่ลงบันทึกประจำวันก็ได้ให้ผู้เสียหายไปติดต่อฝ่ายสืบสวนของ สน.บางซื่อ และแจ้งว่าให้ผู้เสียหายไปหาพยานหลักฐานรวมทั้งกล้องจรปิดเอง ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่สบายใจต่อการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
