fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ลูกหนี้ร้องกำนัน อ้างถูกแก๊งค์เงินกู้บุกทวงหนี้

Featured Image
ลูกหนี้ร้องกำนัน หวั่นไม่ปลอดภัย อ้างถูกแก๊งค์เงินกู้บุกทวงหนี้ข่มขู่ถึงในบ้าน เตรียมยกอุปกรณ์ทำมาหากินไปแทนเงินสด

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่าๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ภายบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกภาพชายฉกรรจ์ 2 คน ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนด์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะมีชายในรถ 2 คนเดินเข้ามาในบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นบ้านหญิงลูกหนี้รายหนึ่ง ขาดส่งดอกเบี้ยมา 4 วัน ก่อนจะมีการพูดคุยกันเพื่อทวงหนี้ประมาณ 7,000 กว่าบาท พร้อมทั้งข่มขู่พยายามจะยกร่มซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินของลูกหนี้รายนี้ไป โดยบอกว่าจะใช้แทนเงิน 200 บาท เพื่อนำไปลงบัญชีกู้ยืม แต่ฝ่ายลูกไม่พยายามบอกไม่ยอมให้ยก ถ้าจะยกไปต้อง 500 บาท โดยสุดท้าย ชายที่มาทวงหนี้ก็ยกกลับมาคืน แล้วก็มีการโต้เถียงกันระหว่างคนทวงหนี้และลูกหนี้ที่อยู่ในบ้าน แต่สุดท้ายได้พระเครื่องไป 3 องค์ เพื่อนำไปแทนเงินที่มาทวง

 

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่ อ.น้ำพอง โดยพบกับน.ส.แคท อายุ 30 ปี ซึ่งเดินทางเข้าพบนาย ฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ประธานกำนันชมรมผู้ใหญ่บ้านอำเภอน้ำพอง เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตรายกับครอบครัวภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฎ

 

น.ส.แคท กล่าวว่า ได้ไปกู้เงินรายวันมา 10,000 บาท โดยมีป้าที่รู้จักกันกู้ร่วมด้วย โดยทำการกู้เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของตนเองนั้น ได้จ่ายดอกเบี้ยและตัดต้นมาตลอด แต่คุณป้าที่กู้ร่วมเบี้ยวหนี้ไม่ยอมจ่าย ทำให้ตนเองต้องแบกภาระจ่ายวันละ 500 บาท สุดท้ายหาเงินไม่ทันเพราะมีอาชีพขายกับข้าวในตลาดลูกค้าก็ไม่เยอะเหมือนเดิม สุดท้ายแบกรับหนี้สินแทนไม่ไหว ทางเจ้าหนี้จึงลดให้เหลือวันละ 200 บาท ซึ่งตนเองก็หามาจ่ายตลอด จนกระทั่งช่วงฝนตก ขายของที่ตลาดไม่ได้ จึงขาดส่งมาประมาณ4 วัน

 

“อยู่ๆมีรถกระบะมาจอดที่หน้าบ้าน ตามคลิปวงจรปิด แล้วมาโวยวายจะเอาเงินกับสามีและลูก จำนวน200 บาท ซึ่งขณะนั้นสามีไม่มีเงิน จึงตอบไปได้แค่ว่า “ไม่มีๆๆ” ทางผู้ชาย2คนที่มาทวงหนี้จึงบอกว่าจะยึดร่มที่ตนเองใช้ขายของที่ตลาดนัดทุกวัน ขณะนั้นก็มีการต่อรองกัน โดยตนเองและแฟนบอกว่าจะทำอะไรดูกล้องด้วย

กระทั่งชายคนหนึ่งนำเอาร่มกลับมาคืนไว้ที่เดิม และถามหาพระเครื่อง สามีจึงนำมาให้3องค์ แลกกับดอกเบี้ยและตัดต้น 100 บาท ก่อนจะขับรถออกไป”

 

น.ส.แคท กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ตนเองหวั่นว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับครอบครัว เพราะชาย2คน ได้ทวงเงินต่อหน้าลูกวัย 10 ขวบและ4ขวบ มีการสั่งให้พ่อไปเอาเงินกับลูกมาจำนวน 100-200 บาท แต่ไม่มี จากนั้นลูกสาวก็กลัว บอกแม่ว่าให้ไปแจ้งตำรวจ สำหรับ เงินจำนวน10,000บาทที่กู้ยืมมานั้น ครึ่งหนึ่งเป็นของป้าที่หนีไป ในส่วนของตนเองใช้คืนตลอดเหลือเบ็ดเสร็จตอนนี้จำนวน 7,700 บาท จึงอยากให้ป้ากลับมารับผิดชอบในส่วนของป้าด้วย เพราะครอบครัวเดือดร้อนมากถูกแก๊งค์ทวงหนี้ตามมาทวงที่บ้านทุกวัน

 

ขณะที่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า ได้พา น.ส.แคท เข้าพบนาย สุริยนต์ ดอนสมจิตร ปลัดอำเภอน้ำพอง เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ภายในศูนย์ดำรงธรรมอำเภอน้ำพอง แต่ฝ่ายคนทวงหนี้ไม่ได้มาตามที่นัดกัน จึงมีการโทรศัพท์สนทนากันต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อสรุปทางออก ก่อนที่จะสามารถพูดคุยตกลงในเรื่องหนี้สินกันได้ โดย น.ส.แคทลูกหนี้ขอจ่ายให้แบบเป็นรายเดือนแทนรายวัน โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 20 นาที โดยน.ส.แคท ขอแบ่งจ่ายเงิน 7,700 บาท ในระยะเวลา 3 เดือน เริ่มเดือนหน้าในวันที่ 15 เพราะเงินออกวันที่ 15 ซึ่งทางคนทวงหนี้ก็ได้ตกลงยอมเปลี่ยนให้ บอกว่าเพื่อช่วยเหลือและขอเพียงแค่จ่ายให้ตรงตามที่พูดทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา โดยมีทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมและกำนันตำบลหนองกรุงร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

 

“อยากให้เป็นอุทาหรณ์การกู้เงินรายวันและการค้ำประกันให้คนอื่น แม้ว่าเราจะเป็นคนค้ำแต่ก็ถือว่าเป็นคนกู้โดยปริยาย ส่วนเรื่องของความไม่ปลอดภัย ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.น้ำพอง เรียบร้อยแล้ว”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เป็นพื้นที่ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมชุดปราบปรามเงินกู้นอกระบบ ลงพื้นที่จับกุมและกวาดล้างกลุ่มนายทุนดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็ยังคงมีการดำเนินธุรกินและมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่างเช่นเดิม

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube