Home
|
ข่าว

“ดอน” ร่วมถกFPGHชูมิติ 3 ด้าน ปฏิรูปสาธารณสุข

Featured Image
“ดอน” ร่วมถกรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม (FPGH) ระหว่างประชุม UN ชูมิติ 3 ด้าน ปฏิรูปสาธารณสุขระหว่างประเทศ รับมือภักคุกคามใหม่หลังโควิด-19 พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการนานาชาติปี 71 ที่จังหวัดภูเก็ต

 

 

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม Foreign Policy and Global Health (FPGH) Initiative จัดโดยเซเนกัล ในฐานะประธานกลุ่ม FPGH ณ คณะผู้แทนถาวรเซเนกัล ณ นครนิวยอร์ก โดยเซเนกัลดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มฯ ตั้งแต่ต้นปี 2565

 

ซึ่งในการประชุมฯ เป็นการหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่มฯ ในประเด็นสำคัญด้านสาธารณสุข ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ การส่งเสริมความต่อเนื่องของบริการด้านสุขภาพ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุคหลัง โควิด-19 ข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดช่องว่างด้านสาธารณสุข และเพิ่มการเข้าถึงวัคซีน และ หารือเกี่ยวกับร่างข้อมติของกลุ่มฯ ที่จะเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 77

 

นายดอน กล่าวว่า โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมด้านสาธารณสุขฯ ต้องได้รับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการทำงาน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านสุขภาพที่เกิดใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึง 3 มิติหลัก คือ 1.มิติด้าน “ความเท่าเทียมกัน” ซึ่งย้ำความสำคัญของการจัดสรรทรัพยากรเพื่อฟื้นฟูระบบสาธารณสุขภายหลังโควิด-19 โดยเร่งบรรลุเป้าหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และเพิ่มขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขมูลฐาน

 

ทั้งนี้ ประเทศไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการนานาชาติในปี 2571 ที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้หัวข้อ “อนาคตของชีวิต : อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี แบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง”เพื่อเน้นความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพและแสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการแพทย์ระดับโลกและจุดหมายการท่องเที่ยวชั้นนำเชิงการแพทย์

 

2.มิติด้าน “ความครอบคลุม” ที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการป้องกัน เตรียมพร้อม และรับมือกับการระบาดใหญ่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม พร้อมพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรด้านสาธารณสุข อาสาสมัครชุมชน และอาสาสมัครที่เป็นผู้โยกย้ายถิ่นฐานและอาศัยอยู่ในบริเวณชายแดน อีกทั้งอบรมบุคลากรในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างนักระบาดวิทยาผ่านโครงการ International Field Epidemiology Training Program (IFETP)

 

3.มิติด้าน “ความสอดคล้อง” ของการปฏิรูปฯ กับข้อริเริ่มอื่นด้านสาธารณสุข ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการจัดทำตราสารระหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ภายใต้ WHO และการปรับแก้ไขข้อบทสำคัญของกฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ. 2005 นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมกลไก Universal Health and Preparedness Review (UHPR) ของ WHO เพื่อทบทวนจุดแข็ง-จุดอ่อนของระบบสาธารณสุขไทย พร้อมเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกกลุ่มฯ เข้าร่วมกลไกฯ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่มฯ และกับประชาคมโลก

 

สำหรับกลุ่ม FPGH ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 โดยเป็นกรอบความร่วมมือที่เชื่อมโยงประเด็นด้านสาธารณสุขกับนโยบายต่างประเทศ ประกอบด้วย 7 ประเทศ ได้แก่ นอร์เวย์ ฝรั่งเศส บราซิล อินโดนีเซีย เซเนกัล แอฟริกาใต้ และไทย ทั้งนี้ กลุ่ม FPGH ได้เสนอร่างข้อมติในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เป็นประจำทุกปี โดยมีหัวข้อ/ประเด็นที่ต้องการผลักดันในด้านสาธารณสุขในแต่ละปี ซึ่งกำหนดโดยประธานกลุ่มฯ

 

โดยในปีนี้ หัวข้อการดำเนินงานประจำปี 2565 ได้แก่ “Strengthening consensus on global health in a Post-COVID-19 world: building a healthier world for all” (เสริมสร้างฉันทามติด้านสุขภาวะของโลกในยุคหลังโควิด-19 : การสร้างโลกที่มีสุขภาพดีขึ้นสำหรับทุกคน)

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube