fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“ลุงตู่” จะรอดมั้ย… 3 อดีตนายกฯโดนมาแล้ว

ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2540 กำลังจะมีอายุ 25 ปีเต็ม ในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยมีอำนาจหน้าที่พิจารณาวินิจฉัย

 

ปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ และมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะในอดีตที่ผ่านมา เคยมีทั้งการประกาศว่าการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย,สั่งยุบพรรคการเมือง และตัดสินให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งไปแล้วถึง 3 คน จนบางครั้งศาลรับธรรมนูญก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ คอยจัดการกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และจากกรณีมีมติ รับวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

พร้อมกับสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เหมือนกำลังเป็นลางบอกเหตุว่า “บิ๊กตู่” อาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งไปเพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เหมือนกับอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

3 อดีตนายกฯ พ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญ

– 9 ก.ย.2551 สมัคร สุนทรเวช พ้นนายกฯ เพราะทำรายการอาหาร เผยแพร่ทางโทรทัศน์ มีความผิดรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 267

– 2 ธ.ค.2551 สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน

– 7 พ.ค.2557 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นตำนายกฯ เพราะโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ มีความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 268 ประกอบ 266 (2) และ (3)

 

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 3 คนที่พ้นตำแหน่งนายกฯเพราะศาลรัฐธรรมนูญนั้น มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน มาจากพรรคการเมืองที่มีรากเหง้าเดียวกันคือไทยรักไทยในอดีต

 

เมื่อถูกยุบจึงกลายเป็นพลังประชาชน และเมื่อถูกยุบพรรคอีกครั้งก็เป็นเพื่อไทย มาจนถึงปัจจุบัน ประหนึ่งถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ เป็นอีกฝ่ายโดยบ้าง

 

โดยที่โดนพิษของรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเอง จึงน่าสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะแค่โดนเตือนเพียงหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรอคำตัดสิน และเมื่อมีคำวินิจฉัยที่แท้จริงออกมา

 

จะได้กลับมาเป็นผู้บริหารประเทศอีกครั้ง หรือว่าจะหมดโอกาสกลับเข้าไปนั่งทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าอีกแล้ว ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีความชัดเจน แต่หากย้อนกลับไปดูข้อกฏหมาย

 

และช่องโหว่ของกฏหมาย เกี่ยวกับการนับวาระดำรงตำแหน่งก่อนหน้านี้ ก็ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีโอกาส ที่จะพลิกจากร้ายกลายเป็นดีได้ โดย รศ.ดร.ยุทธพร อิสระชัย

 

อดีตคณะบดีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นว่า ยังสามารถวินิจฉัยได้ทั้ง 3 แนวทาง เริ่มนับ 8 ปี จากปี 2557 หรือ ปี 2560 หรือปี 2562 ก็ได้ทั้งหมด

 

จะเริ่มนับปีไหนก็มี บทบัญญัติของกฏหมายรองรับไว้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน ที่เสียงแตกในการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยมติ 5 ต่อ 4 เท่านั้น ว่าจะเลือกแนวทางไหน

 

เพื่อเป็นคำตัดสินที่สิ้นสุด และผูกพันธ์กับทุกองค์กร พร้อมกับกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับการนับของคนต่อๆไปด้วยนั่นเอง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ รอดพ้น

 

จากการโดนศาลรัฐธรรมนูญเล่นงานมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 18 ก.ย. 2562 วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ใช่

 

“เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” และอีกครั้ง วันที่ 2 ธ.ค.2563 วินิจฉัยว่า “บิ๊กตู่” ที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักประจำตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ทั้งที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

 

ดังนั้น “ลุงตู่” จะรอด หรือจะร่วง ตาม 3 อดีตนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงได้รู้กันในเร็วๆนี้ ….

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube