“ตงตง” ยืดอกรับ “ผมเป็นคนเจ้าชู้!” แต่ขอหยุดที่ “เบสท์”
“ตงตง กฤษกร” ยืดอกรับแมนๆ”ผมเป็นคนเจ้าชู้!” แต่ขอหยุดที่ “เบสท์”
เป็นอีกหนึ่งคู่ที่หลายคนจับตามองในเรื่องของความรักที่อาจจะไม่ได้สวีตหวานเหมืแนช่วงแรก จนก่อนหน้านี้กฌ็มีกระแสข่าวลือเลิกเงียบมาแล้ว สำหรับคู่ของหนุ่ม “ตงตง กฤษกร” และสาว “เบสท์ รักษ์วนีย์” ซึ่งงานนี้หนุ่ม “ตงตง” ยืดอกรับแบบแมนๆเป็นคนเจ้าชู้ แต่ถ้าเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ ก็รู้ว่าอะไรที่ควรทำ

“คือแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ผมเคารพการตัดสินใจของน้อง เบสท์เขาชัดเจนอยู่แล้ว ด้วยความที่เขาเป็นยูทูปเบอร์ครับ คือผมไม่ได้ดูโซเชียลขนาดนั้น แต่ได้ดูไฮไลท์บ้าง แต่ผมว่ามันก็เป็นธรรมชาติของน้อง ผมก็เข้าใจผู้หหยิงนะ เขาจะทำตามความรู้สึกของเขา ถามว่าผมเจ้าชู้ไหม ผมจะบอกทุกคนเสมอนะ ผมเป็นคนเจ้าชู้นะ ผมยอมรับตั้งแต่แรกเลย บอกกับเบสท์ กับคุณแม่ ผมก็บอกเขา แต่ว่าเวลาที่ผมเจอแล้ว ผมจะรู้ว่าสิ่งที่ผมต้องทำคืออะไร”
“ไม่มีนอกลู่นอกทางครับ วันนี้ผ่านมาจะ 2 ปีแล้ว ผมก็อยากจะมีแต่ความสุข ผมทำงานผ่านมา 5-6 ปีแล้ว ผมไม่อยากจะมีอุปสรรคเรื่องอื่นๆเข้ามา ไม่ใช่หยุดเพราะเขาดุ แต่เขาเป็นคนดีเขาเป็นคนกตัญญู เก่ง ตั้งใจทำงาน ดูแลครอบครัว และเขามาด้วยความจริงใจ เขาหึงหวงไหม เบสท์เองก็หวง แค่ไม่ได้มากระทบกับงานเรา บางครั้งเวลาผมเล่นละคร ผมต้องเจอคนอื่น ก็อยากให้เข้าใจผมอยู่ในอาชีพการงานของผม ผมก็ต้องเล่นละครกับคนอื่น เบสท์เองก็เข้าใจครับ”

“ก่อนหน้านี้มีปัญหาไหม คือเขาก็บอกตรงๆว่าถ้ามีปัญหาเรื่องเจ้าชู้ก็คือไม่เอา เขาเป็นคนชัดเจน ถามว่าสร้างความเชื่อใจยังไง แต่ละวันถ่ายละครเสร็จเราก็เจอกันวนลูปแบบนี่”
“ก็มีการปรับจูนกัน ยังไม่ได้ถึงขั้นมีครอบครัวกัน ต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะมากมาย ทั้งผมและน้อง ก็ต้องปรับจูนกันเรื่อยๆ มันก็มีบ้างที่ททะเลาะกัน ไม่เข้าใจกันบ้าง มันไม่มีคนไหนคบกันแล้วเข้าใจกันร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ มันต้องมีอุปสรรคหลายๆอย่างเข้ามา”
“เรื่องที่ไม่เข้าใจกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการขี้งอนบ้าง ก็จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ถ้าเยอะไปก็ต้องพูดคุยกันบ้าง หลักๆคนที่ดูเรา เขาคงอยากที่ดูแต่สิ่งที่มีความสุขแหละครับ ส่วนเรื่องที่เราทะเลาะกัน เราคงไม่ได้ถ่ายให้เห็น ก็ให้เป็นเรื่องของเราที่คุยกันและตัดสินใจกัน ผมเข้าใจทุกคนนะ ว่ามีคนรัก ทุกคนก็คาดหวัง แต่ความรักครั้งนี้ผมไม่สามารถทำตามที่ทุกคนคาดหวังได้ เลยอยากให้เคารพการตัดสินใจของผมกับเบสท์ บางคนมองว่าทำไมไม่สวีต ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ไม่หวานกันเหมือนเมื่อก่อนเลย คือในช่วงนั้นด้วยสถาการณ์โควิดแรกๆเลย เราก็มีเวลาใช้ชีวิต ถ่ายคลิปเยอะพอสมควร แต่ตอนนี้เรากลับมาทำงาน เวลาเจอกันก็น้อยลง เลยอาจจะไม่ได้มีโมเมนต์หวานๆออกมาให้คนดูกัน”
“กดดันไหม ไม่ได้กดดันขนาดนั้น แต่สุดท้ายเราก็อาจจะไม่ได้ทำตามความคาดกวังของใครหลายๆคนได้ ก็ต้องขอโทษด้วย แต่สิ่งที่เราทำได้คือรักกันและมีแต่ความสุขเท่านั้นเอง ก็อยากให้เป็นกำลังใจมากกว่า ผมดีใจและไม่เคยโกรธใครเลย ผมเข้าใจด้วยซ้ำ แต่อยากให้เป็นกำลังใจให้กันมากกว่า”

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCmL7sBjm02WNURAOxGzq25w
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





