fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

อสังหาฯยังไหวขึ้นค่าแรง ห่วงปรับดบ.กระทบผู้ซื้อ

จากการยืนยันของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ว่าจะมีการพิจารณาอัตราค่าจ้างในเดือน ส.ค นี้

 

 

เบื้องต้นคาดจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ ราว 5-8% โดยเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในต้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 รวมไปถึงเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ของ กนง.

 

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ก็ทำเกิดแรงเพื้อมกับเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

 

โดยนายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก

 

เพราะค่าแรงที่จ้างอยู่ในปัจจุบันนั้นอาจสูงกว่าที่จะปรับขึ้นอยู่แล้ว เนื่องจากแรงงานฝีมือค่อนข้างขาดแคลน แต่ผู้ประกอบการเองก็พยายามปรับตัวและวางแผนเผื่อรับมือกับต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น

 

โดยการใช้ของสำเร็จรูปและเทคโนโลยีให้มากขึ้นเพื่อทดแทนแรงงานบางประเภท แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับการยอมรับของลูกค้าด้วย

 

“คงได้รับผลกระทบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าจริงๆ แล้วภาคอสังหาริมทรัพย์ ผลกระทบอาจจะไม่มากเท่าไหร่ ค่าแรงที่กำลังปรับขึ้น ถ้าเทียบกับที่เราจ้างอยู่ เราอาจจะจ้างแพงไปกว่าที่ปรับขึ้น เพราะว่าเราจ่ายค่าแรงอยู่ในระดับสูงพอสมควร

 

เพราะว่าแรงงานบางประเภทหายากอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้บางคนอาจจะจ่ายล้ำหน้าไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะว่าแรงงานมันขาดแคลน และแรงงานฝีมือบางประเภทก็ถูกปรับขึ้นไปแล้ว ผลกระทบทางอ้อมก็คือว่าอาจจะเป็นแรงกดดันให้เราต้องปรับเพิ่มขึ้นอีก

 

และแรงงานประเภทมีกึ่งฝีมือและก็มีฝีมือ อาจจะเป็นตัวที่ทำให้เราปรับเพิ่มขึ้นมากขึ้นไปอีก เพราะว่าถ้าออกมาก็จะมีการเทียบเคียงในระดับสูงขึ้นไป เพราะว่ามันจะทำให้แรงงานประเภทที่อยู่ในระดับสูง ค่าแรงก็จะกระทบในทางเดียวกัน คือมันจะสูงขึ้นไปด้วยเท่านั้นเอง”

 

ทั้งนี้ นายอธิป ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ของ กนง. ว่า เป็นห่วงว่าจะกระทบกับการผ่อนชำระของผู้ซื้อ อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องของการขอกู้ เพราะหากกู้ไม่ผ่านก็จะทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ หรือการซื้อใหม่ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

“กลัวเรื่องการกระทบกับผู้ซื้อเท่านั้นเอง ดอกเบี้ยเนี้ยมันจะเป็นอะไรที่ มีผลกระทบต่อการผ่อนชำระของผู้ซื้อบ้าน ถ้าปรับขึ้น 0.25% ที่ผ่านมาก็กระทบการผ่อนชำระผู้ซื้อบ้านอยู่ประมาณ 2% มันก็จะทำให้ลูกค้ามีปัญหาเรื่องการขอกู้ด้วย

 

ซึ่งทำให้อาจจะบั่นทอนความสามารถในการขอกู้ของลูกค้า อันนี้เราก็กลัวเรื่องไปกระทบเรื่องการขอกู้ของลูกค้า เพราะถ้าลูกค้ากู้ไม่ผ่าน การการโอนกรรมสิทธิ์ หรือว่าการซื้อใหม่มันก็จะได้รับผลกระทบ”

 

จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างใกล้ชิดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ปลายปีนี้จริงหรือไม่ รวมถึงผลกระทบของการปรับขึ้น ดอกเบี้ยโยบายของ กนง. ด้วยว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยมากน้อยเพียงใด

 

วันนี้แรงงานไทยอาจจะยิ้มได้ แต่อีกฝากฝั่งของนายจ้าง ผู้ประกอบการก็คงต้องกัดฟันฝ่าวิกฤตกันต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube