“ดอน” โดดป้องนายกฯ 8 ปีทำงานมาได้รับการยอมรับ
“ดอน” โดดป้องนายกฯ 8 ปีทำงานมาได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ไม่อยากพูดมากในฐานะที่เข้ามาแซงคิว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ลุกขึ้นชี้แจง โดยระบุว่า เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากไว้เพื่อให้พูด เนื่องจากมีข้อความที่พาดพิงถึงนายกรัฐมนตรีว่าท่านมักไปต่างประเทศแล้วจะก้มหน้า
จึงขออนุญาตอธิบายว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เวลาท่านไปต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเยือน หรือการประชุมในกรอบเวทีใดๆ ท่านสามารถเจรจาและนำเสนอท่าทีของประเทศไทยจนหลายๆ ประเทศมีความเชื่อมั่น
ซึ่งความเชื่อมั่นดังกล่าวสะท้อนออกมาหลายด้านอย่างน้อยที่สุดที่ขออนุญาตยกประกอบ คือ ปี 2564 ที่ผ่านมาซึ่งพอจะทราบว่าทั้งปีทั้งโลกขาดแคลนวัคซีน แต่ประเทศไทยด้วยความที่นายกรัฐมนตรีไปเผชิญกับเวทีต่างๆ
พูดจาหารือกับนานาประเทศก็มีการบริจาควัคซีนให้ประเทศไทยรวมกันประมาณ 9,429,290 โดส ซึ่งอันนี้ไม่ใช่เรื่องปกติหากหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดจากับคนเขารู้เรื่อง และในยามที่ทั่วโลกขาดแคลนวัคซีนสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น การบริจาควัคซีนถึงขนาด
เกือบ 10 ล้านโดส โดยใน 10 ล้านโดสนั้นก็มาจากหลากหลายประเทศด้วยกัน ในแง่มูลค่าราคาหากจะคิด 36 บาทของช่วงเวลานั้นก็ 8 พันกว่าล้านบาท หากคิดในช่วงนี้เมื่อค่าเงินต่ำลงก็ประมาณหมื่นกว่าล้านบาท
เพราะฉะนั้นเป็นตัวอย่างที่อยากจะเรียนว่ามีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องดีๆ ตลอด 8 ปีที่นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการทำมาในนามประเทศไทย และได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ตนเองในฐานะที่เข้ามาแซงคิวก็เลยไม่ขอพูดเพิ่มเติมมากไปกว่านี้ ทั้งที่จะยกตัวอย่างในหลายเรื่องด้วยกันได้
นอกจากนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรี พบกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 12-13 พ.ค.ที่ผ่านมา ท่านได้ยกเรื่องของยูเครนจนกระทั่งฝ่ายสหรัฐอเมริกาสนใจฟังความคิด ความอ่านโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวโดยไม่มีสคริปต์ด้วย
ซึ่งตอนค่ำที่เลี้ยงอาหารท่านได้พูดถึงปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้นในยูเครน แต่ขณะเดียวกันปัญหามนุษยธรรมที่กระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะนานาประเทศก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นมนุษยชนที่กระทบกับวิถีชีวิตของประชาชนหรือเรื่องของความขาดแคลนด้านเศรษฐกิจด้านสินค้าต่างๆ เนื่องมาจากราคาน้ำมันแพงและอื่นๆ ก็ขอให้ทางสหรัฐอเมริกาเข้าใจประเด็นเหล่านี้ และหาทางช่วยเหลือด้วย
ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาตั้งใจฟังอย่างมาก และความตั้งใจฟังเหล่านั้นสะท้อนออกมาในหลากหลายรูปแบบของท่าทีที่ดีขึ้นต่อประเทศไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมไปถึงที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย นอกจากนี้ขอปิดด้วยการชื่นชมนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้พูดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่มักไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึง คือสิ่งดีๆ ที่น่าชมยังมีอยู่แต่ทำไมต้องด่ากันอยู่ตลอดเวลา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





