fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

“อนุชา” เตือนปชช.ซื้อสลากดิจิทัลมาขายต่อมีความผิด

Featured Image
“อนุชา” เตือนประชาชนซื้อสลากดิจิทัลมาขายสิทธิต่อมีความผิดตามกฎหมาย พร้อมเตรียมเพิ่มสลากดิจิทัลในระบบ เป็น 7 ล้านฉบับ เพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท เป็น 1,077 จุดครอบคลุมทั่วประเทศ 1 ส.ค.นี้

 

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา ย้ำการนำสลากดิจิทัลมาจำหน่ายต่อเกินราคา มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท

 

หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอให้ประชาชนที่จะซื้อสิทธิ์สลากดิจิทัลจากผู้อื่นให้เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการซื้อต่ออย่างเด็ดขาด เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง จะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน

 

โดยให้สิทธิการเป็นกรรมสิทธิของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น ดังนั้นเมื่อถูกรางวัล เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้ หรือกรณีหากจะมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ

 

โดยนายอนุชา แนะนำให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลโดยตรง ผ่านแอพเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งระบบมีความปลอดภัยสูง ทั้งความเป็นเจ้าของสลาก และการขึ้นเงินรางวัล พร้อมย้ำเตือนผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัลนำไปขายสิทธิต่อให้ผู้อื่นในราคาเกินกว่าใบละ 80 บาท จะมีความผิดถูกดำเนินคดีฐานขายสลากฯ เกินราคา ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ว่าสลากฯ นั้นใครเป็นผู้ซื้อและเป็นเจ้าของ โดยหากมีการนำไปขายต่อหรือขายเกินราคา สำนักงานสลากฯ จะดำเนินการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป โดยจะไม่มีการละเว้น

 

ทั้งนี้นายอนุชา ระบุว่า สำหรับการจุดจำหน่ายสลากฯ ราคา 80 บาท ปัจจุบันดำเนินการแล้ว จำนวน 754 จุดทั่วประเทศ และจะเพิ่มจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท โดยในงวดวันที่ 1 ส.ค.65 จะมีจุดจำหน่ายฯ รวมทั้งสิ้น 1,077 จุด และจะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลในระบบอีก 2 ล้านฉบับ รวมเป็น 7 ล้านฉบับ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube