ข่าว

ชัชชาติ แลกเปลี่ยนปัญหาเมือง “นายกฯยะลา” แสดงพลังท้องถิ่น

28 มิถุนายน 2022 - 11:58

“ชัชชาติ” แลกเปลี่ยนปัญหาเมือง “นายกฯยะลา” เตรียมทำสัญญาเฟรนด์ชิพซิตี้ แสดงพลังท้องถิ่นสำคัญไม่แพ้รัฐบาลกลาง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) เพื่อหารือความร่วมมือระหว่าง ส.ท.ท. กับ กทม. ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและเครือข่ายผู้บริหารเมือง ประเด็นด้านการกระจายอำนาจ

และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ว่า การหารือวันนี้เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานของท้องถิ่น ซึ่งกทม. เองก็เป็นสมาชิกใน ส.ท.ท. ด้วย โดยมองว่าเทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนใหญ่พบปัญหาเหมือนกันหลายเรื่องไม่จำเป็นต้องคิดใหม่

แต่ให้นำแนวทางขององค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นมาใช้เป็นการร่วมมือซึ่งกันและกันซึ่งจะสะท้อนว่า พลังการกระจายอำนาจเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะได้ใกล้ชิดกับประชาชน เข้าไปแก้ปัญหาได้

สำหรับเทศบาลยะลา กับ กทม.จะทำสัญญาเป็นเฟรนด์ชิพซิตี้ หรือเมืองที่เป็นมิตรต่อกันโดยทาง กทม.จะเชิญวงดนตรีซิมโฟนีของยะลามาร่วมกิจกรรมดนตรีในสวน นอกจากนี้ กทม. ยังมีแผนสร้างเครือข่ายที่เป็นมิตรอีกหลายเทศบาล

เพื่อทำให้เห็นว่าพลังท้องถิ่นสำคัญไม่แพ้รัฐบาลกลางที่ผ่านมาถ้าท้องถิ่นไหนทำได้ดีคุณภาพชีวิตประชาชนจะดีขึ้นมาก

นายชัชชาติกล่าวว่า เรื่องกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะที่ผ่านมาถูกลดการจัดเก็บจากร้อยละ 100 เหลือร้อยละ 10 ทำให้ทุกองค์กร รายได้หายไปจำนวนมาก

เช่นปี 2563รายได้หายไปมากกว่า 19,000 ล้านบาท ส่งผลให้แต่ละท้องถิ่นมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีการรวมตัวกันเพื่อเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล

ส่วนอีกเรื่องสำคัญที่หารือวันนี้คือเรื่องกฎหมายการถอดถอนผู้บริหาร สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอน ผู้บริหารหรือสมาชิกได้ เรื่องนี้จะส่งผลให้การทำงานลำบากขึ้น

เช่น การเข้าชื่อถอดถอน สามารถทำได้ตั้งแต่ 6 เดือนที่ผู้บริหาร และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่ อีกทั้งใช้ชื่อผู้ร่วมถอดถอนไม่มาก ซึ่งแตกต่างจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)ที่ไม่มีกฎหมายตัวนี้ ตัวนี้มาควบคุม

จากนี้จะต้องดูรายละเอียด หารือกับสมาชิกปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมเสนอข้อสังเกต ไปยังสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

มีนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า กทม.ถือเป็นสมาชิกในฐานะผู้ก่อตั้งส.ท.ท. ตั้งแต่ในสมัยผู้ว่าท่านแรกที่ เดิมมีการใช้ตำแหน่งว่า นายกเทศมนตรีกทม. ปัจจุบัน กทม.ก็ยังเป็นสมาชิกอยู่ การมาหารือวันนี้

ประเด็นแรกเป็นการมาแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ ในการรับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ส่วนประเด็นที่จะหารือในวันนี้ เป็นเรื่องการบริหารงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ประกอบด้วย กทม. เมืองพัทยา เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)

และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สิ่งสำคัญขององค์กรปกครองท้องถิ่นเหล่านี้คือความใกล้ชิดประชาชน และรับรู้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน

สิ่งหนึ่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหาคล้ายกัน คือเรื่องการกระจายอำนาจโดยเฉพาะปัญหาเรื่องการเงินการคลัง อย่างเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากรัฐบาลลดการจัดเก็บภาษีเหลือร้อยละ 10 ส.ท.ท

เชื่อว่าถ้าประชาชนในพื้นที่มีความสุข มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี เมื่อต่อจิ้กซอว์แต่ละท้องที่เป็นภาพใหญ่ ประเทศตะมีความมั่นคงต่อไป และการมาวันนี้ในฐานะตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครยะลาอยากมาแสดงจุดยืนการเป็นเมืองเฟรนด์ชิพซิตี้ การเป็นมิตรต่อกันระหว่าง กทม. และยะลา

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงในประเด็น พรบ.ถอดถอนผู้บริหารท้องถิ่นว่า พรบ.ถอดถอนนี้ยังต้องมีสามเรื่องที่ต้องหารือ เรื่องแรกความลักลั่นการใช้กฎหมายเพราะบังคับใช้เฉพาะผู้บริหาร สมาชิกองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น แต่ผู้บริหารระดับชาติไม่มีพรบ.นี้ควบคุม

ประเด็นที่สองระยะเวลาสามารถยื่นถอดถอนได้ภายใน 6 เดือน หลังเลือกตั้งประชาชนมีสิทธิ์ยื่นถอดถอนด้วยจำนวนผู้ยื่นร้อยละ 10 จากผู้มีสิทธิ์ เลือกตั้งทั้งหมด และถ้ายื่นถอดถอนแล้วผลการตรวจสอบว่าไม่มีความผิด ก็สามารถยื่นถอดถอนได้ใหม่

ทั้งที่ความเป็นจริงถ้าสอบสวนว่าไม่ผิด ควรต้องจบเรื่อง และประเด็นสุดท้ายควรมีการถ่วงดุลอำนาจเมื่อเปรียบเทียบกับการเมืองระดับชาติเห็นได้ว่า คณะกรรมการเลือกตั้งเมื่อมีความเห็นว่ากระทำความผิดต้องส่งฟ้องศาลให้วินิจฉัย

แต่ พ.ร.บ.ถอดถอนท้องถิ่นกระบวนการจบที่ผู้กำกับ ไม่มีการฟ้องศาลต่อเช่น กทม. ถ้าพบว่ามีความผิดผู้มีอำนาจถอดถอนคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ถ้าเป็นเทศบาล ก็จะจบที่ชั้นผู้ว่าราชการจังหวัด สะท้อนให้ว่าการวินิจฉัยไม่มีการถ่วงดุล