fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

นักวิเคราะห์ ชี้ ศก.โลกยังคงผันผวนฟื้นตัวช้า

Featured Image
นักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนฟื้นตัวช้า คาด เศรษฐกิจไทยโต 4.1%  ปรับดอกเบี้ย Q4

 

 

จากการเสวนาหัวข้อ “Big change เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย การท่องเที่ยว และการเมือง นักวิเคราะห์จะปรับคาดการณ์อย่างไรในหุ้น ทอง กองทุนนอก” ซึ่งจัดโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน IAA

 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โนมูระพัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนอีกมากและคาดว่ากำลังเผชิญความเสี่ยงทำให้ฟื้นตัวช้า จากการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อทั่วโลกและเศรษฐกิจจีนชะลอตัว แต่เศรษฐกิจไทยยังถือว่ามีโอกาสฟื้นตัวได้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกดีกว่าที่คาด

 

โดยมีการส่งออกเป็นแรงส่งที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามจากนี้จะต้องจับตาการปลดล็อกนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศจีนว่าจะออกมาในทิศทางอย่างไรเพราะจะมีผลกับการส่งออกของประเทศไทยแต่เวลานี้ยังคงมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังการส่งออกจะยังคงประคองตัวไว้ได้

 

ประกอบกับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เชื่อว่าจะดีขึ้นหลังจากเปิดประเทศ ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6.5-7 ล้านคน ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศดีขึ้น การบริโภคสูงขึ้น และคาดว่าถ้าการท่องเที่ยวจะดีต่อเนื่องถึงปีหน้า ทำให้เศรษฐกิจค่อยๆปรับฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 และปีหน้าขยายตัวร้อยละ 5.8 และในช่วงไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากมีภาคการท่องเที่ยวคอยกระตุ้นกำลังซื้อและประคองเศรษฐกิจ

 

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ราคาทองคำในช่วงนี้เริ่มมีการทยอยเทขายทองคำจากกองทุน SPDR หลังจากเฟสขึ้นอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอีกจึงทำให้มีแรงเทขายโดยนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนอาจมีการโยกย้ายเงินลงทุนจากนี้จะเห็นความผันผวนของสินทรัพย์ในตลาดอีกมาก

 

ซึ่งราคาทองคำในตลาดโลกตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1,800 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และขึ้นมาทดสอบที่ 2,069 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ในช่วงเดือนมีนาคม จากนั้นเริ่มปรับตัวลดลงในเดือนเมษายน ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเวลานี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

 

โดยสถานการณ์ทองคำยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามประกอบด้วยอัตราเงินเฟ้อที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลทำให้มีการซื้อทองคำสะสมมากขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเกินร้อยละ 3 จะเห็นราคาทองคำสูงขึ้นร้อยละ 14 เพราะจะมีการเข้ามาลงทุนมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีการปรับสูงขึ้นกดดันทองคำให้มีการขายออก การลดมาตรการ QE ของสหรัฐ

 

จากก่อนหน้านี้ที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่องพอมีการดึงเงินกลับราคาทองคำจะลดลง ทำให้สถานการณ์ราคาทองคำยังถือว่ามีความไม่แน่นอนสูงโดยในช่วงสั้นนี้ราคาทองคำอาจปรับราคาลดลง แต่ไม่ควรลงต่ำกว่า 1,670 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือต่ำกว่า 26,500-27,000บาทต่อบาททองคำ หากต่ำกว่านั้นถือเป็นช่วงที่นักลงทุนสามารถเข้าซื้อได้

 

นายณัฐพล คำถาเครือ นักกลยุทธ์อาวุโส บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มีความผันผวนอีกมากโดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นตัวบั่นทอนกำลังซื้อในประเทศ และเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงพีคเดือนพฤษภาคมหลังจากนั้นจะทรงตัวและค่อยๆปรับตัวลดลง เพราะฉะนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับดอกเบี้ย 1 ครั้ง

 

เพื่อรักษาส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยนโยบายของไทยกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้จนถึงเดือนกันยายน โดยความผันผวนต่างๆจะทำให้เศรษฐกิจโตช้า

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube