fbpx
Home
|
ทั่วไป

สรุปดราม่า พิมรี่พาย vs สาวป่วยติดเตียง อ้างถูกอมเงินบริจาค

Featured Image

          เป็นประเด็นดราม่าในสังคมออนไลน์อีกครั้งสำหรับ พิมรี่พาย หลังถูก ส้ม สาวป่วยติดเตียงออกมาแฉว่า แม่ค้าออนไลน์ใจบุญคนนี้เข้ามาช่วยเหลือเพียงเพราะต้องการจัดฉากสร้างภาพเท่านั้น ที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไรสรุปจัดฉากหรือแกงกันแน่ มาฟังได้เลยกับ #พิมรี่พาย และ #คุณส้ม

ที่มาอาการของคุณส้ม

  • คุณส้ม เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 36 ปี อยู่กับลูกสาวในวัยอนุบาลและประถม ทั้ง 3 คน มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายของตามตลาดนัดและขายออนไลน์บนเฟซบุ๊ก ก่อนที่จะเป็นโรคจนต้องนอนติดเตียง
  • คุณส้มเล่าผ่านคลิปรายการของพิมรี่พายที่เข้ามาช่วยเหลือว่า เธอเป็นโรคกล้ามเนื้อสลาย ซึ่งเริ่มมาจากการก้าวขึ้นที่นอนแล้วจู่ๆ ร่างกายก็ไม่มีแรงทำให้ล้มลง เริ่มมีอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ แล้วก็เดินไม่ได้อีกเลย
  • จนตอนนี้ร่างกายขยับได้เพียงส่วนหัว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องใส่แพมเพิร์สตลอด ขาดรายได้ค้าขาย อาศัยเพียงเงินเบี้ยเลี้ยงคนสูงอายุเดือนละ 600 บาทคอยดูแลเท่านั้น ภายในห้องเช่าเล็กๆ
  • นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ คุณส้ม มักออกมาโพสต์ขอรับเงินบริจาครวมถึงสิ่งของต่างๆ เพื่อขอรับความช่วยเหลือทั้งบนหน้าเฟซบุ๊ก และกลุ่มต่างๆ 
  • กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว มีชาวเน็ตหลายคนเห็นใจคุณส้ม รวมถึง พิมรี่พาย ที่เดินทางไปถ่ายทำความเป็นอยู่ของคุณส้มพร้อมให้การช่วยเหลือมากมาย
  • ทั้งการบริจาคเงินให้จำนวน 10,000 บาท เกณฑ์คนเข้ามาทำความสะอาดห้องและซื้อของใช้ที่จำเป็น อาทิ เตียงเด็ก ที่นอน ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ทีวี ชั้นวางของ ติดต่อแพทย์กายภาพบำบัดเข้ามารักษาโดยตัวเองจะจ่ายค่าคอร์สในการบำบัด 16 ครั้งทั้งหมด 48,000 บาทให้ฟรี
  • รวมถึงข้าวของเดิมของคุณส้มที่อัดอยู่ในห้อง พิมรี่พาย ก็ลงทุนเช่าห้องข้างๆไว้เก็บของโดยเฉพาะ เพื่อหวังว่าเป็นการสร้างบรรยากาศสำหรับทำกายภาพ เพราะเพียงแค่ครั้งแรกที่ทำ คุณส้ม ก็สามารถยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งได้อีกครั้ง 
  • ซึ่งด้านหมอเองก็มั่นใจว่าหากทำครบคอร์สคนป่วยจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ภายใน 1 เดือน
  • ทำเอาคอมเมนต์ใต้คลิปส่วนใหญ่ เต็มไปด้วยข้อความชื่นชมพิมรี่พายและให้กำลังใจคุณส้มมากมาย 

ดราม่าพิมรี่พายเกิด(อีกครั้ง)

  • ผ่านไปหลายเดือนเหมือนเหตุการณ์จะดี แต่พอขึ้นปีใหม่ปุ๊บสัญญาณดราม่าก็จ่อเข้าทันที เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมานี้ เฟซบุ๊ก พิมรี่พาย ได้โพสต์อัปเดตอาการของคุณส้มว่า อาการคุณส้มดีขึ้นตามลำดับ สามารถลุกออกจากเตียงช่วยเหลือตัวเองด้วยเครื่องช่วยพยุงได้แล้ว
  • แต่ทว่า ฝั่งของ คุณส้ม กลับแชร์คลิปดังกล่าวพร้อมข้อความว่า “ถ้าเดินได้แบบในคลิปก็คงดี” พร้อมถ่ายภาพให้เห็นว่าตนเองยังไม่สามารถลุกขึ้นมาช่วยตัวเองได้เลย
  • อีกทั้งเธอเองก็โพสต์ระบายความในใจเรื่อยๆว่า นักกายภาพไม่ได้รักษาเธออย่างจริงจัง เป็นแค่การสร้างภาพ แล้วยังสั่งให้หยุดยาที่กินอยู่ ทำให้อาการกำเริบและมีโรคอื่นตามมาจนต้องเข้าโรงพยาบาล การกายภาพก็มีแค่ให้ทายาและแปะเครื่องที่หลังเพียงอย่างเดียว
  • เจ้าตัวยังโพสต์ตัดพ้ออีกว่า พิมรี่พายมาถ่ายรูปถ่ายคลิปไปบอกคนทั่วประเทศว่าเธอเดินได้แล้ว แต่ความจริงเธอยังเดินไม่ได้ คนก็หยุดบริจาคหยุดช่วยเหลือเพราะคิดว่าเธอเดินได้แล้ว ทำแบบนี้เหมือนกระทืบซ้ำคนล้มกันชัดๆ
  • นอกจากนี้ คุณส้ม ยังระบุด้วยว่าตอนที่คนเข้ามาช่วยทำความสะอาดห้องได้ทิ้งสินค้าและของใช้ของเธอไปหลายชิ้น ซึ่งแม้เธอจะติดต่อขอของคืนไปแล้วแต่ก็ยังไม่ได้มาแต่อย่างใด มีเพียงข้อความของทีมงานที่บอกให้จดมาว่ามีอะไรบ้างแล้วจะโอนเงินไปให้ แต่ก็เงียบไป
  • เหตุการณ์นี้สำนักข่าวหลายสำนักได้พาดหัวบนโลกออนไลน์ ถึงประเด็นนี้ว่าสรุปแล้วคลิปช่วยเหลือของ พิมรี่พาย เป็นแค่เพียงการจัดฉากเพื่อยอดไลก์ยอดแชร์หรือเปล่า

แถลงการณ์จากพิมรี่พาย

  • จนในวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 พิมรี่พาย ได้อัปโหลดคลิปชี้แจงกรณีคุณส้ม ว่าเธอเข้าไปช่วยเหลือเพราะอยากให้หายจริงๆ ลูกของคุณส้มก็อยากให้แม่พาไปเที่ยว ไปกินข้าวข้างนอก ด้วยหัวอกคนเป็นแม่เธอเลยซึ้งใจมากๆ
  • ซึ่งเคสนี้ พิมรี่พาย แจ้งว่าคุณส้มไม่สามารถทำบัตรคนพิการได้ เพราะหมอประเมินแล้วว่ามีโอกาสหาย พิมรี่พายเลยควักเงินรวม 120,000 บาท เพื่อให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง
  • ว่าจ้างบริษัททำความสะอาดให้มาทำความสะอาดห้องเพราะกังวลว่าจะไม่มีพื้นที่ให้คุณส้มเดิน ห่วงเรื่องอากาศถ่ายเท เชื้อราต่างๆ ที่จะทำให้การกายภาพช้าลง
  • ส่วนเรื่องของที่เอาออกไปมีคุณแม่ของคุณส้มกำกับอยู่จึงเช่าห้องข้างๆ ไว้ทำห้องเก็บของ โดยจ่ายค่าเช่าให้ 3 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่พอถึงเดือนมกรา คุณส้มโทรบอกว่ายังเดินไม่ได้ จึงตัดสินใจเช่าห้องต่อให้อีก 3 เดือน
  • พร้อมทั้งแสดงหลักฐานเป็นบันทึกของนักกายภาพฯที่ระบุว่าคุณส้มอาการดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เปลี่ยนอิริยาบถจากนอนเป็นนั่ง จากนั่งเป็นยืนได้ และเดินลงน้ำหนักได้เกือบปกติ
  • แต่พอถึงการรักษาครั้งที่ 4 คนไข้เริ่มปฏิเสธการรักษา โดยอ้างว่าปวดหัวบ้าง เป็นหวัดบ้าง ขอพักบ้าง และมีอยู่ครั้งหนึ่งโดนไล่ไม่ให้รักษา เพราะถ้าหายก็จะขึ้นทะเบียนคนพิการไม่ได้และไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐต่อไป
  • เรื่องข้าวของที่โดนอ้างว่าเป็นคนสั่งให้ทีมงานยกออกไปและสัญญาจะชดใช้ คุณส้มได้เขียนรายการของที่หายกว่า 10 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 32,415 บาท ทางพิมรี่พายก็จะโอนเงินให้ตามคำเรียกร้องเช่นกัน
  • นอกจากนี้คุณส้มยังส่งข้อความมาถามทีมงานอีกว่า พิมรี่พาย นำชื่อตนไปแอบเปิดรับบริจาค ก็ได้ยืนยันเช่นเดียวกันว่าไม่ได้ทำแต่อย่างใด อาชีพของพิมรี่พายมีแค่การขายของเท่านั้น ทั้งนี้แม่ค้าออนไลน์สาวยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป
  • โดยเหตุการณ์เหมือนจะจบลงแต่อีกฝ่ายยังคงสู้ต่อ ทางคุณส้มได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวว่า ตนไม่เคยปฏิเสธการรักษาเลย บางครั้งนักกายภาพบำบัดก็บอกว่ารักษาให้ไม่ได้เพราะเธอมีไข้และปวดหัว แต่กลับบังคับให้เธอเซ็นปฏิเสธการรักษา อ้างว่างบที่ได้มาหมดแล้ว 
  • ส่วนของที่โดนทีมงานพิมรี่พายเอาออกไป เป็นของที่เตรียมไว้ให้ลูกค้า จึงติดต่อไปเพื่อขอเรียกค่าเสียหายตามปกติ

          ด้านกระแสชาวเน็ตก็ออกมาแสดงความเห็นอย่างมากมายหลังคลิปให้สัมภาษณ์ออกฉาย ว่าคนแบบนี้ไม่น่าช่วยเหลือเลย ตอนป่วยก็หวังหายแต่พอได้ตังค์หวังยอดบริจาค เสียดายเงินช่วยเหลือน่าจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นมากกว่านี้ ขณะที่เฟซบุ๊กคุณส้มก็โดนทัวร์ลงอย่างหนัก พร้อมย้ำว่า “ความจริงคือความจริงนะไม่มีใครอยากโกหกเเน่นอน”

ติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์ทุกเวลาได้ที่สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube