“ชัชชาติ” ผลโพลไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครจะได้เป็นผู้ว่าฯ ชี้คะแนนนิยมยังเปลี่ยนแปลงได้ เร่งลงพื้นที่โน้มน้าวใจพลังเงียบ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 กล่าวถึงผลสำรวจจากสถาบันต่างๆ ที่สัปดาห์หน้าจะไม่มีแล้ว ว่า ผลสำรวจไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครจะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. หลายครั้งที่ผลสำรวจนำแต่ไม่ชนะก็มี ส่วนตัวไม่ได้ยึดติด เน้นลงพื้นที่ตลอดและทำอย่างเต็มที่ยิ่งโค้งสุดท้ายมีความหมาย ส่วนที่ทุกโพลปรากฏชื่อนายชัชชาตินำนั้น ตนเชื่อว่าผลคะแนนสามารถเปลี่ยนได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นคนตัดสิน
ส่วนกลยุทธในการโน้มน้าวคะแนนจากประชาชนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าประชาชนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใดทำให้เข้าถึงยาก แต่ก็พยายามจะสื่อสารให้ได้มากที่สุด พร้อมยก 2 ประเด็น คือเรื่องนโยบาย และความไม่แน่ใจถึงความเป็นอิสระ ซึ่งยืนยันว่าตนลงสมัครในนามอิสระอย่างแน่นอน ลงพื้นที่มากว่า 2 ปีครึ่งไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองไหนเลย
ขณะที่ข้อกังวลเรื่องกระแสข่าวด้านลบในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่มีออกมาเรื่อยๆนั้น ตนไม่กังวล แต่หากมีเฟคนิวส์ ก็ทำหน้าที่แก้ไข ยกตัวอย่างกรณีที่มีประเด็นการยื่นคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบตนกรณีเอื้อเอกชนประมูลดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมินั้นซึ่งยืนยันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานาน และตรวจสอบไปแล้ว และไม่ทราบเจตนาของผู้ยื่น อีกส่วนเราก็มีทีมกฎหมายคอยดูแลชี้แจงต่อประชาชนให้รวดเร็วก่อนเชื่อว่าตนก็ไม่ได้เจอปัญหาเฟคนิวส์เพียงคนเดียว ฉะนั้นเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้กันเยอะๆ เพราะสำคัญและจะมีผลต่อชีวิตคนกรุงทุกคนในอนาคตฉะนั้นเลือกคนที่เราไว้ใจ
ส่วนถ้อยคำเชิญชวนให้เลือกผู้สมัครฯ ที่ไม่ใช่คนอิสระแบบอีแอบ นั้น นายชัชชาติ หัวเราะพร้อมกล่าวว่าเชื่อว่าประชาชนจะมีวิจารณญาณในการตัดสินใจแต่ตนไม่คงไม่ทำ ส่วนใครจะแสดงความคิดเห็นอย่างไร ตนก็คงห้ามไม่ได้ และใครที่เลือกชัชชาติ ก็ขอให้เลือกเพราะชอบที่นโยบายจริงๆ
อาจจะมีการพูดเนื้อหาที่เป็นคุณเป็นโทษกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นั้น ตนมองว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจระเบียบดี และตนคิดว่าประชาชนเข้าใจ จึงไม่ได้กังวลใจอะไร
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าหากตนได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ทำงานกับรัฐบาลนี้ได้ เพราะถ้าทำไม่ได้คงไม่ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.และทำงานร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพฯ(ส.ก.)ได้ด้วย เป็นผู้ว่าฯ กทม.ต้องคิดไว้ก่อนเลยว่า ต้องทำงาน กับส.ก.ได้ทุกพรรคทุกเขต สิ่งหนึ่งต้องรีบทำคือคุยในเรื่องนโยบายของแต่ละคน เพื่อจะได้เริ่มลงมือทำงานได้เร็ว เพราะต้องให้เกียรติส.ก.แต่ละพื้นที่ด้วย
พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ ยังคงยืนยันหากตนเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะต้องมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชุมนุม และประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่ส่วนหากผู้สมัครฯบางบุคคล อาจถูกสนับสนุนจากพรรคการเมือง นายชัชชาติ มองเป็นหลักประชาธิปไตย มีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีของอิสระคือคล่องตัวประสานงานได้ง่าย ส่วนลงในนามพรรคการเมืองก็มีฐานเสียง มีคนช่วยหาเสียง ส่วนนโยบายแรกถ้าหากเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. คงเป็นเรื่องการจัดการความโปร่งใส การทุจริต การใช้เทคโนโลยีบริการประชาชน เพราะไม่ต้องใช้งบประมาณ เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิดของคนเท่านั้น
ส่วนการปราศรัยใหญ่ขอหารือกับทีมงานอีกครั้ง ก่อนอธิบายเพิ่มเติมว่าถ้าหากจัดใหญ่เกรงว่าจะไม่มีคนมาฟัง แต่มีวิธีสื่อสารวิธีอื่นแต่คงไม่ใหญ่โตซึ่งนโบายต่างๆก็อยู่ในเว็ปไซต์ ประชาชนสามารถเข้าไปดูนโยบายต่างๆได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
