บันเทิงไทย

“จุ๋ย-พุฒ” เคลียร์ปมดราม่าไม่ไปร่วมอาลัย “แตงโม” หลังถูกชาวเน็ตถล่มยับ

15 มีนาคม 2022 - 15:38

กลายเป็นประเด็นดราม่าเพียงชั่วข้ามคืน สำหรับคู่ของนักแสดงและผู้จัดคนสวย “จุ๋ย วรัทยา” และ “พุฒ – พุฒิชัย” หลังจากที่ “มดดำ คชาภา” เอ่ยปากถามก่อนปิดท้ายรายการแฉ ว่า “ไปร่วมงาน แตงโมมั้ย?” โดยสาว “จุ๋ย” ได้ตอบว่า “ไม่ได้ไป เพราะว่าจุ๋ยไม่ได้ทำงานร่วมกับน้อง แต่ว่าแสดงความเสียใจด้วยวิธีอื่น” ขณะที่ ดีเจพุฒ ไม่ได้ตอบว่าอะไร จนทำให้ชาวเน็ตต่างคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นมากมายจนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล

ล่าสุด ทาง “จุ๋ย และ พุฒ” ได้มีการไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรม ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งมีบางช่วงบางตอนที่สาว จุ๋ย กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวเลยทีเดียว

โดย จุ๋ย ได้ระบุว่า “สำหรับจุ๋ยแล้วตั้งแต่ที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของแตงโม ก็ตกใจมากและเสียใจมากจริงๆ เพราะเป็นคนในวงการที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่อาจจะไม่ได้ร่วมงานกัน แต่จุ๋ยก็รู้เสียเศร้าและเสียใจมากๆกับข่าวนี้ ตั้งแต่ที่ทราบวันแรกก็ได้ลงไอจีสตอรี่อาลัยและแสดงความเสียใจกับแตงโมและครอบครัวอย่างสุดหัวใจ และในรายการก็ตอบในส่วนของจุ๋ยเอง ไม่ได้เกี่ยวกับพุฒ จึงได้ออกมาเคลียร์ในวันนี้ ว่าเราไม่ได้ไปร่วมงานแต่ก็ได้แสดงความอาลัยด้วยวิธีอื่นๆ และทราบว่าการไปร่วมงานอาลัยในครั้งนี้ ต้องมีญาติพี่น้องเพื่อนสนิท แฟนคลับ ในขณะที่ตนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการที่อยู่รอบนอก ก็อยากจะให้พื้นที่นั้นกับคนที่สนิทกับ แตงโม จริงๆ จุ๋ยเองได้มีการดูภาพบรรยากาศจากการไลฟ์อยู่แล้วก็เห็นว่างานสวยและงดงามมาก”

“ในฐานะที่จุ๋ยเป็นรุ่นพี่ในวงการก็ชื่นชม แตงโม ในเรื่องของความกตัญญู แข็งแกร่ง และที่ตัดสินใจพูดเรื่องนี้เพราะอยากให้สังคมเห็นว่า บางทีการอินเกินไปหรือมีส่วนร่วมในการคอมเมนต์แต่ไม่ได้รู้เรื่องในชีวิตของเราจริงๆว่าต้องเผชิญอะไรบ้าง จริงๆช่วงนี้จุ๋ยอยู่ในช่วงที่ต้องห้ามเครียดเลย และต้องดูแลตัวเองไม่ให้ติดโควิด เพราะถ้าติดโควิดทุกอย่างที่พยายามทำมาเป็นปีก็จะสูญเปล่าหมดเลย แต่จุ๋ยไม่สามารถอธิบายในรายการแฉได้ (ร้องไห้) จริงๆไม่อยากร้องไห้แต่มันเกิดเรื่องในขณะที่จิตใจอ่อนแอมากๆ จุ๋ยรู้สึกว่าการสูญเสียของ แตงโม เราได้อะไรหลายอย่างจากสิ่งที่น้องเคยพูดไปแล้ว หลายคนบอกว่าชีวิตแตงโมเหมือนหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านและเป็นบทเรียน สิ่งที่น้องเคยพูดว่า น้องเองน้องก็ไม่ไหวเหมือนกันที่ได้รับคอมเมนต์แย่ๆ หรือมีคนพูดจาแย่ๆ ตนก็เลยคิดว่า อ้าว! หนังสือเล่มนั้น บทเรียนเล่มนั้น ไม่ได้บอกอะไรกับคนที่รักโม หรือคนที่กำลังอินกับข่าวโมเลยเหรอ จุ๋ยเชื่อว่าน้องคงไม่ได้อยากให้การตายหรือการสูญเสียของน้องกลายมาเป็นเรื่องราวแบบนี้ และจุ๋ยก็เชื่อว่าน้องรับรู้ได้ว่าเราสองคนเสียใจมากๆ”

“ถึงแม้จุ๋ยจะไม่ได้เป็นคนที่ไม่สนิท ไม่ได้มีเบอร์โทรศัพท์ ไม่มีแชทน้อง หรือไม่เคยคุยกันเลยตั้งแต่เข้าวงการ 20 กว่าปี แต่ตอนที่จุ๋ยนั่งดูรายการของ พี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม จุ๋ยก็ยังร้องไห้หนักมาก จุ๋ยอินมากๆ จุ๋ยตามข่าวของน้องโมในทุกวัน และก็รู้สึกสงสารในโชคชะตาของเขา อย่างวันนี้เราได้เห็นว่ามีคนรักเขามากๆ จุ๋ยก็ยังอยากให้เขาได้เห็นภาพนี้เหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นจุ๋ยก็พยายามพาตัวเองออกมาจากข่าว เพราะไม่เช่นนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของจุ๋ย จุ๋ยเลยต้องตามดูแค่พอประมาณ ส่วนเรื่องของการให้ความเห็น จุ๋ยก็จะพยายามให้ความเห็นอะไรที่น้อยมากๆ และก็ไม่อยากให้กระทบกับความรู้สึกของใคร ด้วยความที่จุ๋ยต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้ติดโควิดอะไรหลายๆ อย่าง และตัวคุณพุฒเองก็อยู่กับจุ๋ยตลอดทั้งวัน ดังนั้นเขาจึงต้องดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เขานำเอาความเสี่ยงมาให้จุ๋ย การไปรวมกลุ่มกับคนหมู่มาก 100 คน ขึ้นไป 200 คนขึ้นไป เราก็จำเป็นจะต้องทำในบทบาทหน้าที่ของความเป็นเรา แต่ถามว่าเราใจดำไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือสูญเสียกับการจากไปของน้องโมเลยไหม มันไม่จริงเลยค่ะ อีกอย่างคืออยากให้ใช้สติในการคอมเมนต์ อยากให้เข้าใจในความเป็นเราสองคน และยืนยันว่าเราสองคนไม่เคยมีปัญหากับใครเลย สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงแม้ว่ามันจะทำให้จุ๋ยเสียใจ แต่จุ๋ยก็จะพยายามไม่โมโห ไม่โกรธ ไม่เคืองกับข้อความใดๆ จุ๋ยขออภัยให้กับทุกคน ไม่ถือโทษโกรธ อโหสิกรรมให้หมดทุกอย่าง และขอให้ตรงนี้เป็นอภัยทาน ไม่อยากให้มีห่วงกรรมหรือเศษกรรมที่เกิดจากการทำร้ายจิตใจกัน”

ด้านของ “พุฒ พุฒิชัย” เผยว่า “ตนได้มีโอกาสร่วมงานกันในละครใบไม้ที่ปลิดปลิว ในวันที่ทราบข่าวก็หวังว่าจะให้มีปาฏิหาริย์ และก็รู้สึกเสียใจที่ได้ทราบข่าวการจากไปของพี่แตงโม ตนเองก็ได้มีการโพสต์ไอจีสตอรี่แสดงความอาลัยด้วยเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ไปร่วมงานแสดงอาลัย เนื่องจากตนมีภาระหน้าที่ มีละครที่ต้องถ่ายเลยไม่ได้ไป แต่เราสองคนตั้งใจจะส่งพวงหรีดไปแต่ว่าทางงานไม่ได้รับ ตอนนี้มีหลายคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในพื้นที่ส่วนตัวของตนและภรรยา ต่อว่าด้วยถ้วยคำที่รุนแรง ถึงขั้นไล่ไปตายหรืออะไร ก็อยากจะขอร้องให้ทุกคนมีสติในการเสพข่าว ตนเองก็มีความรู้สึกทางใจเหมือนกัน พอเจออะไรแบบนี้ยอมรับก็รู้สึกแย่ และอีกเรื่องคือตนและภรรยาอยู่ในช่วงของการเตรียมมีลูก คุณหมอเลยแนะนำว่าอยากให้หลีกเลี่ยงในเรื่องของการไปในสถานที่ที่มีคนเยอะๆ เพื่อเซฟตัวเองด้วย”