นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกวิตกอย่างหนัก โควิดสายพันธุ์ใหม่ “B.1.1.529” หรืออีกชื่อคือ “Nu” ที่ต่อมาถูกตั้งชื่อสายพันธุ์อย่างเป็นทางการว่านี้ว่า “โอไมครอน” โควิดสายพันธุ์ โอไมครอน เป็นสายพันธุ์ที่อันตรายสุดเท่าที่เคยเห็นมา ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อทวีคูณอย่างต่อเนื่องในแอฟริกาใต้ รวมทั้งฮ่องกง และบอตสวานาแล้ว
เมื่อ 25 พ.ย. 64 บรรดาผู้เชี่ยวชาญร่วมเตือนให้ระวังเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ จากประเทศบอตสวานาในแถบแอฟริกา ซึ่งถูกตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “โอไมครอน” นักวิทยาศาสตร์พบว่าไวรัสดังกล่าวเกิดการกลายพันธุ์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอาจอันตรายกว่า สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน
ต่อมาในวันที่ 26 พ.ย. 64 สายพันธุ์ โอไมครอน ถูกจัดให้เป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดที่ 5 ที่ “WHO” จัดให้อยู่ในสายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง (Variant of Concern) ต่อจากสายพันธุ์ อัลฟา , เบต้า , แกมมา , เดลต้า รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในต่างประเทศทั้งหมด 87 ราย แบ่งเป็น ประเทศแอฟริกาใต้ 77 ราย บอทสวาน่า 6 ราย ฮ่องกง 2 ราย อิสราเอล 1 ราย และเบลเยียม 1 ราย
หน่วยงานสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย. 2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ “โอไมครอน” ในประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป็นผู้โดยสาร 2 คนที่เดินทางไปยัง นครซิดนีย์ จากประเทศทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ล่าสุด 29 พ.ย. 64 มีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน เพิ่มขึ้น 24 ราย ดังนี้
- สวิตเซอร์แลนด์ พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย
- แคนาดา พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย
- อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย
- ออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย
- สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย
- เนเธอร์แลนด์ พบผู้ติดเชื้อ 13 ราย
สรุปจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ โอไมครอน ทั่วโลก ณ ขณะนี้ 111 ราย ใน 11 ประเทศ
ความน่ากลัวของโควิด “โอไมครอน”
ภาพรวมไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้มีความน่ากลัวตรงที่อาจกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงโรคเพิ่มขึ้นและสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของร่างกายหลังได้รับวัคซีนได้
สายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” นี้ถูกตั้งชื่อเรียกว่า “B.1.1.529” ก่อให้เกิดความกลัวและความกังวลในหมู่นักวิทยาศาสตร์ เพราะเชื้อโควิด “โอไมครอน” เกิดจากการกลายพันธุ์บนเซลล์ที่มีมากกว่า 50 จุด รวมถึงบริเวณแท่งหนามโปรตีนที่มากถึง 32 ตำแหน่ง ที่เพิ่มประสิทธิภาพการติดเชื้อให้รุนแรงมากขึ้น รวมถึงหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้มากกว่าเดิม
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวญชาญเกี่ยวกับการแพร่ระบาดวิทยาได้กล่าวเสริมว่า โควิดสายพันธุ์ โอไมครอน หรือโควิด B.1.1.529 ควรเป็นที่จับตามอง เพราะมีโอกาสที่ตัวเลขผู้ป่วยจากเชื้อดังกล่าวอาจแพร่กระจายได้รวดเร็ว โดยในขณะนี้องค์กรอนามัยโลก “WHO” ประกาศระมัดระวังในระดับเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อาการของ “โอไมครอน”
แพทย์หญิงชาวแอฟริกาใต้เผยว่า อาการจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนั้น แตกต่าง และไม่รุนแรงมากจากที่เธอเคยรักษามาก่อนพร้อมแสดงความกังวลว่าสายพันธุ์นี้ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
โควิดสายพันธุ์โอไมครอน มีอาการเมื่อยล้าอย่างรุนแรง ไม่มีผู้ป่วยคนใดที่สูญเสียการรับรสหรือการรับกลิ่น อาจมีอาการไอเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการใดที่เด่นชัด ผู้ติดเชื้อบางคนกำลังรักษาตัวที่บ้าน สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดข่าวสารทันใจแบบนี้ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ iNN News
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news