ลดค่าโอน-จดจำนองช่วยคนรายได้น้อย1.1แสนราย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ตามที่ ครม. ได้ออกมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม กรณีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งล่าสุดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รายงานต่อที่ประชุมฯว่า การดำเนินการตามมาตรการลดภาระค่าธรรมเนียมฯ สามารถช่วยลดภาระและเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางและช่วยให้เข้าถึงกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย จำนวน 111,635 ราย สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 91.35 จากที่กำหนดไว้จำนวน 58,340 ราย แม้การดำเนินมาตรการ ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรายได้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ลดลง จำนวน 1,512.367 ล้าน ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 11.04 จากที่คาดการณ์ไว้จำนวน 1,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มาตรการทางสังคมนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การมีที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ อปท. มีรายได้จากภาษีอื่นๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีสรรพสามิต ชดเชยกับรายได้ที่สูญเสียไป ครม.ยืดแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์แบบ QR Code นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมอนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะการทำ วิธีแสดง และการใช้เครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎกระทรวงกำหนดลักษณะการทำ วิธีแสดงฯ พ.ศ.2563 เฉพาะการแสดงรายละเอียดใบอนุญาตและข้อมูลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในรูปแบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) ออกไปอีก 180 วัน โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 (จากเดิมที่มีผลวันที่ 21 มกราคม 2564) เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และเตรียมพร้อมดำเนินการแสดงรายละเอียดใบอนุญาตและข้อมูลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในรูปแบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครม.เห็นชอบยกระดับรัฐพาณิชย์-เตลังคานา นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ รัฐเตลังคานา สาธารณรัฐอินเดีย โดยจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในรูปแบบออนไลน์ช่วงเดือนมกราคม 2564 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงพาณิชย์จะมีการลงนามบันความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกับรัฐบาลระดับรัฐของสาธารณรัฐอินเดีย โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs และวิสาหกิจ เริ่มต้น Start Up รวมทั้งแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีภายใต้กรอบความร่วมมือ