รถไฟท้องถิ่น3จังหวัดชายแดนภาคใต้วิ่งแค่ยะลา หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงขบวนท้องถิ่นเมื่อวาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการเดิน รถไฟท้องถิ่น ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงรถไฟท้องถิ่นขบวน 454 สุไหงโก-ลก-ยะลา ระหว่างสถานีรือเสาะ-บาลอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาสเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย
ล่าสุดในวันนี้การเดินรถไฟขึ้นล่องระหว่างสถานีรถชุมทางหาดใหญ่และ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของขบวนรถไฟท้องถิ่นทุกขบวนเปิดเดินรถแค่สถานีรถไฟยะลา เท่านั้น มีเพียงขบวนรถเร็ว171และ172 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เพียง2ขบวนเท่านั้นที่สิ้นสุดปลายทางสถานีสุไหงโก-ลกและขบวนรถไฟขึ้นล่อง3จังหวัดชายแดนภาคใต้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและอส.1ชุดปฏิบัติการประจำบนขบวนรถเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร แต่บรรยากาศที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ค่อนข้างเงียบเหงากว่าปกติ
ด้านสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ ได้ออกแถลงการณ์เรียกขอให้ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้โดยสารและผู้ปฏิบัติงานบนขบวนรถไฟ ในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเสนอต่อการรถไฟและผู้เกี่ยวข้อง4ข้อ คือเร่งรัดผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อประชุม กำหนดเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในการเดินขบวนรถในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยขบวนรถที่เดินเข้าไปในพื้นที่ล่อแหลมขอให้พนักงานบนขบวนรถระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถจักร และรถพ่วง รวมทั้งข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินขบวนรถในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอให้ผู้เกี่ยวข้องในการ รถไฟฯงดเดินขบวนรถเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราว โดยในระยะแรกขอให้มีการเปิดเดินขบวนรถถึงสถานีรถไฟยะลา ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม ไปจนกว่าจะได้มีการประชุมและวางมาตรการความปลอดภัยร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและขอให้การรถไฟมีมาตรการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานที่เข้าไปปฏิบัติในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถอย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้ทางผู้บริหารการรถไฟและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะนัดหารือเพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยการเดินรถไฟในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
