รองนายกฯจุรินทร์ ชี้ ช่องเกษตรกรใช้ประโยชน์โครงการลดราคาปุ๋ยตลอดเดือนสค.นี้ พบยังเข้าร่วมน้อย ราคาตลาดพุ่งขึ้น 60% ตามน้ำมัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการ “พาณิชย์ลดราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร” ร่วมกับสมาคมการค้าและผู้ผลิตปุ๋ย สหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ ผ่านระบบ Zoom ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและจะสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ หรือจนกว่าสต๊อกปุ๋ยจะหมด โดยมีปุ๋ยเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 225,211 ตัน หรือ 4,504,320 กระสอบ คิดเป็นร้อยละ 4.5 ของปริมาณนำเข้าทั้งหมด จำนวน 84 สูตร
ซึ่งขณะนี้พบว่า มีกลุ่มเกษตรกรมาซื้อปุ๋ยจากโครงการเพียง 1,000,000 กระสอบ โดยหลังจากนี้จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกษตรกรรับทราบ เพื่อใช้สิทธิ์มาซื้อปุ๋ยราคาถูกให้มากขึ้น โดยเกษตรกรสามารถแจ้งความจำนงได้ในนามของกลุ่ม ทั้งกลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน หรือแม้แต่การรวมกลุ่มเฉพาะกิจ เพื่อสั่งจองตามราคาที่กำหนด ซึ่งเป็นราคาหน้าโรงงานไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระยะทาง สามารถแจ้งผ่านสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์อำเภอ เกษตรจังหวัดหรือเกษตรอำเภอ ได้ โดยหน่วยงานในพื้นจะมีหน้าที่ในการตรวจสอบว่าเป็นการรวมกลุ่ม เกษตรกรผู้เพาะปลูกตัวจริง
ทั้งนี้ในที่ประชุม ภาคเอกชนได้รายงานว่าปัจจุบันราคาปุ๋ยสูงขึ้นมาก เพราะแม่ปุ๋ยทั้งหมดเกือบ 100% นั้น ไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อค่าดำเนินการต่างๆทำให้ราคาที่นำเข้ามาจำหน่าย ในไทยเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 60 สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ค่าขนส่ง ค่าระวางเรือที่สูงขึ้นมากถึงร้อยละ 30
ทั้งนี้ปุ๋ยในโครงการราคาต่ำกว่าท้องตลาดเฉลี่ยกระสอบละ 20 บาท หรือ 1000 บาทต่อตัน ไม่รวมราคาขนส่ง เช่น ยูเรีย ลอตแรกนำเข้ามา 7000 ตัน หรือ 14,000 กระสอบ สำหรับโครงการ ตรึงราคาขายหน้าโรงงาน ให้ที่ 650 บาทต่อกระสอบ ไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งได้จำหน่ายหมดไปแล้ว หลังจากนี้นำเข้ามาอีก 2 ลอตรวม 16,800 ตัน หรือ 336,000 กระสอบ สำหรับโครงการจำหน่ายให้ที่ 775 บาท ต่อกระสอบ เนื่องจากราคาตลาดพุ่งสูงขึ้นไปที่ 825 บาทต่อกระสอบ ไม่รวมค่าขนส่ง อย่างไรก็ตามราคาปุ๋ยยูเรียมีแนวโน้มจะลดต่ำลงในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากหมดฤดูกาลเพาะปลูก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
