fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

“ศักดิ์สยาม”ดูขยายเส้นทางใช้ความเร็ว120กม./ชม.

Featured Image
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ติดตามความคืบหน้าการขยายเส้นทางอนุญาตให้รถวิ่งได้ 120 กม./ชม. ตามแผนรวมระยะทาง 246 กิโลเมตร

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามผลการเปิดใช้เส้นทางที่อนุญาตให้รถวิ่งได้ 120 กม./ชม. และความคืบหน้าการขยายเส้นทางที่จะเปิดใช้ในระยะถัดไป  ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meeting โดยกล่าวว่า กรมทางหลวง ได้นำเสนอผลการใช้งานของประชาชนในเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วง บางปะอิน – อ่างทอง ที่ได้เปิดใช้ไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ซึ่งผู้ขับขี่ได้มีการใช้ความเร็วตามความเร็วจำกัดในแต่ละช่องทางดีขึ้น โดยตรวจสอบจากสัดส่วนยานพาหนะที่วิ่งด้วยความเร็วที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดในแต่ละช่องทาง พบว่ามีการฝ่าฝืนการใช้ความเร็วในแต่ละช่องจราจรลดลง เทียบกับก่อนการบังคับใช้ความเร็ว 120 กม./ชม. กองบังคับการตำรวจทางหลวงได้รายงานว่า ในช่วงเส้นทางดังกล่าวมีการบังคับใช้กฎหมายและมีการออกใบสั่งแก่ผู้ฝ่าฝืนอย่างต่อเนื่อง และ ในการประชุมได้มีการกำหนดแผนที่จะเปิดเส้นทางที่อนุญาตให้ประชาชนผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. ในช่องทางขวาสุดเพิ่มเติมอีก โดยมีเส้นทางตามแผนรวมระยะทางทั้งสิ้น 246 กิโลเมตร

สำหรับเส้นทางที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน ระหว่างกรมการขนส่งทางบกและกรมทางหลวงภายในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ ได้กำชับให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุขและประกาศที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้กรมทางหลวงประชาสัมพันธ์และสื่อสารให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ทั้งในมิติของเส้นทางที่จะดำเนินการ และวันที่ที่ประชาชนจะสามารถใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. ได้ตามกฎกระทรวง และ ประกาศผู้อำนวยการทางหลวง เพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างทั่วถึง และ ถูกต้องต่อไป

นอกจากนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการยกระดับความปลอดภัยบนทางหลวงสายหลัก จำนวน 47 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางในภาคเหนือ 9 เส้นทาง ระยะทาง 186 กิโลเมตร เส้นทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 เส้นทาง ระยะทาง 96 กิโลเมตร เส้นทางในภาคกลาง 15 เส้นทาง ระยะทาง 288 กิโลเมตร เส้นทางในภาคตะวันออก 9 เส้นทาง ระยะทาง 177 กิโลเมตร และเส้นทางในภาคใต้ 7 เส้นทาง ระยะทาง 116 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 863 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องมีการก่อสร้างกำแพงคอนกรีต สะพานกลับรถหรือทางลอดกลับรถ สะพานคนเดินข้าม พร้อมทั้งปรับปรุงกายภาพ เส้นทางให้ปลอดภัย สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. โดยได้กำชับให้กรมทางหลวงเตรียมการออกแบบให้เหมาะสมเพื่อให้ประชาชนผู้สัญจรใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube