เศร้า! “ใหญ่-ฝันดี” ปิดร้านโรตี โควิด19ทำพิษขายได้แค่วันละ300 บาท เดินหน้าทำดีต่อ…แม้จะโดนดราม่าสร้างภาพ
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวพ่อด้านจิตอาสาสุดๆ สำหรับฝาแฝดอารมณ์ดี “ใหญ่-ฝันดี จรรยาธนากร” ที่เดินหน้าสร้างกลุ่มใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยเหลือพี่น้องคนไทยทุกสถานการณ์ ทั้งที่ธุรกิจส่วนตัวของตัวเองร้านโรตีที่ตัวเองฟูมฟักมากับมือต้องปิดกิจการลงเพราะพิษโควิด19 จากที่เคยมียอดออเดอร์ขายได้วันละหลักหมื่นกลับต้องเหลือเพียง วันละหลักร้อยต่อวัน ล่าสุด “ใหญ่-ฝันดี” ขอออกมาเคลียร์ทุกเรื่องราวดราม่าผ่านรายการ Z story ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง34 กับสองพิธีกรตัวจี๊ด “ดีเจอ๋อง-เขมรัชต์” และ “ฮารุ สุประกอบ”แบบจัดเต็ม
ล่าสุดเห็นว่าธุรกิจร้านโรตี ก็มีอันต้องปิดตัวลงเพราะพิษโควิด?
“ตั้งแต่รอบ3ที่เข้ามา พี่เคยเข้าไปนั่งที่ร้าน วันเดียวได้ 700บาท บ้างวันเหลือ 350 เมื่อก่อนวันหนึ่งได้8,000-10,000 แล้วพอวันเสาร์-อาทิตย์ที่เราเคยขายได้ดี ตอนนี้แย่แล้วขายได้ 3000 และต้องนั่งรถทุกวัน แต่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ไม่ไหวก็เลยปิด”
ซึ่งงานในวงการบันเทิง ก็หายไปหมดเลย?
“แน่นอน อาชีพพวกเราโดนผลกระทบแน่นอน โดนอยู่แล้วอันดับหนึ่งเลย ธุรกิจก็ปิดด้วย เราต้องอยู่รอดด้วยเงินเก็บไง ถ้าสมมุติเราวางแผนยเงินเก็บ ประเมินตัวเราเองตั้งแต่แรก ก็จะอยู่รอด”
แต่ถึงตัวเองจะได้ผลกระทบแต่ยังสร้างกลุ่ม ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน?
“ถ้าเราย่อๆเลยความจริงกลุ่มของเราคือกลุ่มที่ช่วยเหลือ สาธารณะภัย ฝึกซ้อมเอาความถนัดของด้านที่เราชอบเป็นจิตอาสา กู้ภัย ตึกถล่ม น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรืออะไรที่เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่พอมาช่วงโควิดเนี้ยก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นเรื่องของการบรรรเทาทุกข์ ทำอาหารแจก ไปทำถุงยังชีพ แต่ถึงสิ่งทุกอย่างเราต้องใช้แรงขับเคลื่อนนะ โชคดีที่กลุ่มของเราตั้งมาตั้ง5-6ปี เข้าสู่ปีที่7 แล้วทุกคนก็ติดตามเรามาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเป็นกลุ่มที่คนมีแรงและคนมีเงิน กับคนที่มีจิตศรัทธา ก็เลยเอาข้าวของมา เราก็ทำอาหารส่งไปที่นู้นนี้นั้น มีแรงออกแรง มีของช่วยของ มันก็ทำไปเรื่อยๆ เริ่มจากเราสองคนเล็ก-ใหญ่ ตอนนี้รวมๆก็500-600 จากที่เราสอน ก็ขยายไป5,000-6,000 คน ทั่วประเทศ”
ทำดีมาตลอด แต่ก็ยังมิวายว่าทำความดีสร้างภาพ?
“เราคิดไม่ได้นะ ร้อยพ่อพันแม่ แต่เราก็คิดในจุดของเรานะว่าคนเขาคิดอย่างนั้นได้ มันก็บันทอนเราได้ ถ้าเขาคิดแบบนั้นแล้วเราไม่เอามาใส่ใจเราก็เดินหน้าในสิ่งที่เราคิดได้ เราพยายามตอบโจทย์ตัวเองนะ เราสร้างภาพอย่างที่คนอื่นคิดหรือเปล่า แต่เรามองว่าเราเป็นดาราทุกคนก็รู้จักเราอยู่แล้วนะ มันก็ไม่ได้มีผลให้เรามีอาชีพการงานที่เยอะขึ้นนะ แต่ด้วยรวมแล้วเรามีความสุข ถ้าเราสร้างภาพ สร้างเพื่ออะไร เราสร้างภาพเพื่อความสุขและรวยยิ้ม เพื่อตอบแทนความสุขของมนุษย์ ตอบแทนคืนสู่สังคมในรูปแบบที่เรารัก เรื่องสร้างภาพแล้วแต่จะคิดเลยนานาจิตตัง เราเอามาเป็นความสุขและรอยยิ้มของเราดีกว่า”
