fbpx
Home
|
ทั่วไป

รบ.ระดมตรวจเชิงรุกมุ่งลดผู้ติดเชื้อโควิดรายวัน

Featured Image
 รัฐบาล ระดมตรวจเชิงรุก มุ่งเป้าคัดกรองผู้ป่วย โควิด19 ออกจากชุมชน หวังลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ขณะ ทุกภาคส่วนผนึกกำลังช่วยรอบด้าน

 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์ โควิด19 พบว่าจังหวัดส่วนใหญ่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้มากขึ้นแล้ว แต่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยผู้ป่วยติดเชื้อใน กทม. ระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน จำนวน 16,045 ราย คิดเป็นร้อยละ 44.2 ของการติดเชื้อทั้งประเทศที่มีจำนวน 36,290 ราย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นให้ขยายการตรวจเชิงรุกเพื่อเร่งแยก ผู้ป่วยออกจากประชากรทั่วไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการ ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลง

ที่ผ่านมา ในชุมชนพื้นที่กทม. ตั้งแต่วันที่ 5- 30 เม.ย. ได้ให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุกไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงาน ได้ให้บริการตรวจเชิงรุกแก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 ช่วงระหว่างวันที่ 17-30 ในกทม. และระหว่างวันที่ 24-30 เม.ย. ในปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ตรวจไปแล้วรวม 4.5 หมื่นราย ซึ่งจะส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อทุกคน ไปรักษาที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel ทันทีตามอาการ

และตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ค. นี้ กระทรวงสาธารณสุขเปิดตรวจคัดกรองโควิด- 19 โดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน สำหรับประชาชนกลุ่มสัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยยืนยันโควิด19 และผู้ไปในสถานที่เสี่ยง ณ สนามกีฬาธูปะเตมีย์ พร้อมรับ walk in วันละ 1,000 คน แจกบัตรคิวหน้างานช่วงเช้ารอบเดียวจนกว่าจะหมด ขณะที่กระทรวงแรงงานจะให้บริการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ในพื้ที่สมุทรปราการ ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานวันนี้ถึง- 7 พ.ค. และกรุงเทพหมานครและปทุมธานี อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 5-11 พ.ค ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย -ญี่ปุ่น) และวิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดปทุมธานี พร้อมประเมินเพื่อปรับการบริการให้สอดคล้องสถานการณ์ด้วย

 

กลาโหม-2 โควิด19

กห.เร่งเข้าไปช่วยสนับสนุนมาตรการควบคุมโรคและจัดตั้ง รพ.สนามในเรือนจำกลาง จว.เชียงใหม่ ตามร้องขอ

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับขอให้กองทัพบก ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม เร่งเข้าไปช่วยเหลือกรมราชทัณฑ์ ตามร้องขอเป็นการเร่งด่วน เพื่อดูแลรักษาและควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานควบคุมเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้ถูกควบคุมมากกว่า 6,500 คน

โดยให้เร่งสนับสนุนวางแผนการบริหารจัดการพื้นที่ทั้งมาตรการป้องกัน การแก้ปัญหาเร่งด่วนและการสนับสนุนในเรือนจำกลาง ร่วมกับฝ่ายปกครองและสาธารณสุขในพื้นที่ภาพรวม โดยเฉพาะมาตรการตัดวงจรการติดเชื้อของผู้ถูกควบคุมแรกเข้าและก่อนออกจากเรือนจำ รวมทั้งการส่งต่อผู้ป่วยรุนแรงในเรือนจำเข้ารับการรักษา โดยขอให้เร่งสนับสนุนจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่เรือนจำกลาง และเร่งเสริมขีดความสามารถของโรงพยาบาลแม่แตงในพื้นที่ ให้มีขีดความสามารถของห้องไอซียูรองรับผู้ป่วยที่อาจมีมากขึ้นให้เพียงพอ

พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำนโยบายของ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ทุกเหล่าทัพ ใช้ขีดความสามารถของหน่วยทหารและทรัพยากรทางการแพทย์ทหารในพื้นที่ ทำงานกับสาธารณสุขและฝ่ายปกครองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดควบคุมโรคในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดง อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอให้สนับสนุน กทม. จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเขตคลอง เพื่อดูแลผู้ป่วยและการควบคุมโรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาพรวมไปพร้อมกัน

 

รพ.สนาม-โควิด19

กอ.รมน. ใช้กลไก กอ.รมน.ภาค และ จังหวัด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม

พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. แถลงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยที่ยังตกค้างรอเข้ารับการรักษาและยังส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องออกข้อกำหนดเพิ่มเติม เพื่อป้องกัน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่จะขยายไปในวงกว้าง

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมะปิยะ รองเลขาธิการ กอ.รมน. ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.ศรมน.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมอบหมายให้กอ.รมน.ภาคและ กอ.รมน.จังหวัดช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อสั่งการของรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อที่รอเข้าการรักษา รวมทั้งการจัดยานพาหนะเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลหรือพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ (โรงพยาบาลสนาม) อีกทั้งได้เน้นย้ำให้ประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการ และข้อกำหนดที่รัฐบาลได้ออกเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19ของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด

สำหรับการจัดเตรียมสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคลี่คลายปัญหาบริหารจัดการเตียงผู้ป่วย ซึ่งเป็นภาระเร่งด่วนในปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีจำนวนมากในหลายพื้นที่ ขอให้ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัดพร้อมสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวก ในด้านต่างๆ ตามการร้องขอเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ที่เข้ารับการรักษาอย่างเร็วที่สุด

ทหารช่วย-โควิด19

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อที่รอการรับการรักษา โดยได้จัดตั้งศูนย์แรกรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อส่งต่อ (Pre Admission Center) ณ อาคารนิมิบุตรสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่คัดกรองและส่งต่อผู้ป่วย ไปยังโรงพยาบาล โดยจะคัดกรองและแยกระดับอาการเป็นสี เขียว เหลือง แดง ก่อนส่งต่อไปรักษาตามความเหมาะสมเพื่อรองรับปัญหาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังอยู่ที่บ้านให้เข้าถึงการดูแลรักษาของแพทย์โดยเร็วที่สุด การให้บริการจะเหมือนโรงพยาบาล โดยมีบุคลากร แพทย์ พยาบาล ยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบถ้วน ส่วนช่องทางการติดต่อขอเข้ารับการรักษา สามารถติดต่อผ่านทาง สายด่วนโควิด-19 เฉพาะกิจ 1668, 1669 และ 1330 รวมทั้งสายด่วน กอ.รมน. 1374 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กอ.รมน. ขอฝากความห่วงใยมายังประชาชน เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และ สังคม โดยขอความร่วมมือช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและข้อบังคับที่รัฐบาลกำหนดเพิ่มเติม จนกว่าประเทศจะกลับสู่ภาวะปกติ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการอยู่ร่วมกัน ลดกิจกรรมการชุมนุมสังสรรค์ทุกประเภท หลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัด ยังคงเข้มงวดกับมาตรการ D-M-H-T-T-A และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ เพื่อรู้เท่าทันเหตุการณ์ กอ.รมน. พร้อมมุ่งมั่น บูรณาการ ขับเคลื่อนประสานงาน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

 

ส.ส.ธณิกานต์เยี่ยมชมความพร้อมของสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 คาดกลาง พค.เตรียมการเสร็จ

น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด มหาชน หรือ SCG ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 14 สถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมความพร้อมของสถานที่แล้ว เพราะพี่น้องประชาชนในพื้นที่บางซื่อ และดุสิต ให้ความสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน เพราะเชื่อว่าจะลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลงได้ในเร็ววัน ซึ่ง SCG มีความพร้อมทั้งด้านสถานที่ การเดินทางที่สะดวก เนื่องจากติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ เป็นพื้นที่แนวราบ กว้างขวาง โล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนด้านบุคลากร และพนักงานจิตอาสาอย่างเพียงพอเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้ประชาชน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกัน SCG ยังให้การสนับสนุนอุปกรณ์และงบประมาณ โดยจะสามารถรองรับผู้มาฉีดวัคซีนได้ 2,000 คนต่อวัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าพี่น้องประชาชาในเขตบางซื่อ-ดุสิต จะได้ฉีดทั่วถึงอย่างเท่าเทียม ปลอดภัย และลดการแพร่ระบาดจากการเดินทางข้ามพื้นที่

คาดว่าน่าการเตรียมความพร้อมของสถานที่จะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือน พ.ค. จากนั้น ต้องวางแผนและดำเนินการทดสอบการบริหารจัดการ ซึ่งสามารถเปิดทำการได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. คาดว่ารองรับได้ 2,000 คนต่อวัน ซึ่งวัคซีนจากหน่วยงานภาครัฐจะเริ่มให้บริการได้ 7 มิถุนายนนี้

 

ราเมศ

ปชป. ยันเดินหน้าช่วยประชาชนพ้นโควิด พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ แสดงความเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในส่วนของพรรคที่ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนว่า ขณะนี้ในทุกพื้นที่บุคลากรของพรรคไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรี ส.ส.อดีต ส.ส. สาขาและตัวแทนพรรค ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ 350 เขต ทั่วประเทศ ประชาชนสามารถประสานเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทุกเวลา บุคลากรของพรรคจะยังคงพบปะประชาชนปกติ ในการดูแลทุกข์สุข การนำหน้ากาก เจลล้างมือ เพื่อไปมอบให้กับประชาชน ป้องกันตนเองซึ่งเป็นช่องทางที่ดีที่สุด

ขณะนี้ ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 (ศปฉ.ปชป.) เพื่อช่วยประสานคลี่คลายปัญหาผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างได้ให้เข้ารับการรักษาก็ได้เปิดทำการให้ความช่วยเหลือทุกวัน ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ด้านกฎหมายของพรรคที่ได้เปิดศูนย์บริการกฎหมายสู้ภัยโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 ขณะนี้ก็ยังดำเนินการอยู่มีผู้ใช้บริการแล้ว กว่า 1,000 ราย ทั้งที่โทรศัพท์เข้ามาและติดต่อผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย มีโทรศัพท์สายตรงกับนักกฎหมายของพรรค

โดยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่หลายคนต้องถูกเลิกจ้าง ถูกพักงาน เนื่องจากกิจการได้ปิดลงชั่วคราว หลายรายมีหนี้สินถึงขั้นไม่ได้ผ่อนจ่ายในภาระต่างๆ จนถูกฟ้องคดี ปัญหาในการเข้าถึงสิทธิต่างๆของรัฐการประนอมหนี้ หรือชะลอคดีไว้ก่อน และการช่วยร่างสัญญาต่างๆที่เร่งด่วน รวมถึงการสอบถามข้อปฏิบัติตนในพื้นที่ต่างๆ

นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ก็ได้จัดซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 1 ล้านชิ้น เพื่อได้นำไปแจกจ่าย เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนบางส่วนให้กับพี่น้องประชาชน สถานการณ์ขณะนี้ทุกคนต้องสามัคคี มีวินัย การป้องกันตนตามขั้นตอนแนะนำ ของบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นส่วนสำคัญ และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ขอให้ ทุกคนปลอดภัย และขอแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต เราจะต้องผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube