“อนุทิน” ฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2 วันนี้ ยันทุกอย่างควบคุมได้เป็นไปตามแผน ไม่ใช่ระบาดรอบ3 ขออย่ากังวลตั้ง รพ.สนาม สโมสรตำรวจ
นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเรื่องการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่สโมสรตำรวจแห่งชาติ ว่า ได้มีการติดต่อประสาน กันกับผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำหรับรองรับผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง ซึ่งการบริหารจัดการ โรงพยาบาลภาคสนามสามารถจัดการได้ในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งหากมีการร้องขอทางกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุน ซึ่งได้ให้คำแนะนำถึงแนวทาง ต่างๆว่า ควรจะปฏิบัติกับผู้ที่นำมารักษาในโรงพยาบาลสนามอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่คนเหล่านี้ไม่แสดงอาการ เป็นวัยทำงาน ไม่ต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์และใช้เวลารักษาตัวประมาน 10 วัน ก็จะหายเอง
นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า การตั้งโรงพยาบาลสนามในสโมสรตำรวจนั้น มีรั้วรอบขอบชิด ไม่มีชุมชนใกล้เคียง ขออย่ากังวล โดยย้ำว่า ผู้ที่เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามเป็นผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ หากแสดงอาการก็จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลหลักเพื่อรักษาทันที ขอให้สบายใจในเรื่องนี้ ซึ่งกรมควบคุมโรคอยู่กับเรื่องนี้มา1ปีครึ่ง ต้องคิดถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อีกทั้งต่อจากนี้บุคลากรทางการแพทย์ก็จะมีความชำนาญ ในการรักษาโรคมากขึ้น
ทั้งนี้ ขออย่าเพิ่งดูยอดผู้ติดเชื้อรายวัน แต่ขอให้ดูว่าการกระจายโรคนั้นอยู่เหนือการควบคุมหรือไม่ ในตอนนี้ไม่มีการกระจาย แต่เป็นการติดเชื้อแบบเป็นคลัสเตอร์ ยืนยันไม่ใช่ระบาดระลอกที่ 3
ส่วนการผลิตวัคซีนจากเชื้อตาย ขององค์การเภสัช ที่พัฒนาร่วมกับสถาบันการแพทย์ของอเมริกา ที่ได้เริ่มฉีดให้กับอาสาสมัครกว่าร้อยคนนั้น ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน หากทำตรงนี้ได้ก็จะถือเป็น “วัคซีนไทยแลนด์” ที่มีองค์การเภสัชเป็นเจ้าของเทคโนโลยี และในอนาคตจะมีการพัฒนาวัคซีนในหลายรูปแบบเพื่อใช้เอง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าสามารถผลิตได้อยู่ที่ 30 ล้านโดสต่อปี ขอให้ทุกคนมั่นใจในเรื่องวัคซีน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้และไม่ใช่ประเด็นอีกต่อไป ขอให้ไปพูดถึงการเปิดประเทศ กระจายวัคซีนไปในจังหวัดท่องเที่ยว ลำดับขั้นตอนยืนยัน ว่าไม่มีเรื่องใดที่ล่าช้า ทุกอย่างควบคุมได้เป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ ก่อนทิ้งท้ายจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
