fbpx
Home
|
ทั่วไป

กทม.กวดขันสถานบริการรับมือโควิด-19

Featured Image
กทม.กวดขันสถานบริการ ปรับ Test&Go ตรวจ RT-PCR 2 รอบ รองรับนักท่องเที่ยว

 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการยกระดับการปฏิบัติการตามแผนเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกวดขันตรวจสอบสถานประกอบการและสถานบริการที่ปรับเป็นร้านอาหารให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 รวมถึงการลักลอบเปิดสถานบันเทิง หรือสถานที่เที่ยวกลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือกระทำผิด พรก.ฉุกเฉินฯ

 

โดยกทม.สั่งการทุกสำนักงานเขตดำเนินการตามประกาศ เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 50) ซึ่งอนุญาตให้สถานบริการ สถานประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข และผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐาน SHA+ หรือตามมาตรฐาน Thai Stop Covid 2 Plus : TSC 2+ ที่มีความประสงค์จะปรับรูปแบบของสถานที่เพื่อการให้บริการในลักษณะที่เป็นร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้ขออนุญาตต่อสำนักงานเขตพื้นที่เพื่อตรวจสอบและประเมินความพร้อมของสถานที่ บุคลากร และการจัดการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่กำหนด

 

โดยต้องได้รับอนุญาตภายในวันที่ 15 ม.ค.65 ก่อนเปิดให้บริการได้ภายใต้การกำกับติดตามของพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และให้บริการเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.

 

สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ในรูปแบบ “Test and Go” จะปรับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง โดยมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรก และในวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ และหลักฐานชำระเงินการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง โดยต้องอยู่รอในที่พัก หรือสถานที่ที่กำหนด จนได้รับผลการตรวจ

 

ทั้งนี้ ทางกทม.ได้เร่งการเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่ระบาดโดยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ พนักงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาด และเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube