fbpx
Home
|
ทั่วไป

มติคกก.โรคติดต่อลดกักตัวแค่7วันหากฉีด2เข็ม

Featured Image
มติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ลดระยะเวลากักตัวเหลือแค่ 7 วัน หากฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ลุยเปิดประเทศรอชง ศบค.

 

ในวันนี้ 23 กันยายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 9/2564 ที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายอนุทิน เปิดเผย ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีอัตราการติดเชื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือจำนวนผู้เสียชีวิตก็ลดลงด้วย แต่ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะเป้าหมายหลักคือต้องการไม่ให้มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น

สำหรับวันนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้หารือ ประเด็นสำคัญหลายประการด้วยกัน โดยมีข้อสรุปดังนี้

ประการที่ 1 ที่ประชุมรับทราบเรื่องการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กนักเรียน นักศึกษา หรือเทียบเท่า อายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดการเรียน-การสอน โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับ สธ. จากข้อมูลมีเด็กที่เข้าข่ายทั้งสิ้นกว่า 4.5 ล้านคน ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ ทางคณะกรรมการอาการและยา หรือ อย. ได้รับรองแล้วว่าสามารถใช้กับเด็กอายุ 12 ขึ้นไปได้เพียงตัวเดียว

ประการที่ 2 รับทราบแผนการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 โดยมีเป้าหมายที่จะให้วัคซีนประชาชนให้ครอบคลุมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขณะนี้มีวัคซีนจากการจัดการตามแผน 125 ล้านโดส คาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายได้ในเดือนธันวาคมนี้

ประการที่ 3 มีมติเห็นชอบและรับทราบความคืบหน้าในการเสนอ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วในวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา จากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

มติคกก.โรคติดต่อลดกักตัวแค่7วันหากฉีด2เข็ม

ทั้งนี้ ยืนยันว่า สธ. มีความพร้อมหากกฎหมายมีผลบังคับใช้หลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ

ประการที่ 4 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับลดการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าในประเทศไทย จากเดิม 14 วัน พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อโควิดจากห้องปฏิบัติการ และเข้าสถานกักกัน วันนี้เห็นชอบให้ลดวันกักตัว 14 วัน 10 วัน และ 7 วัน แล้วแต่กรณี

หากลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน ผู้ที่เดินทางเข้ามาต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือวัคซีนครบกำหนดตามบริษัทนั้นๆ พร้อมด้วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางด้วยระบบ RT-PCR และเมื่อมาถึงประเทศไทยต้องตรวจอีก 2 ครั้งก่อนและหลังกักตัว หากทำได้ทุกประการเช่นนี้จะกักตัวเพียงแค่ 7 วัน

ส่วนการกักตัว 10 วัน ที่ไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบ RT-PCR 2 ครั้ง ก่อนและหลังวันกักตัว และต้องเป็นช่องทางทางอากาศเท่านั้น และหากยังไม่ได้รับวัคซีน แล้วมาด้วยช่องทางอื่น ๆ เช่น ทางบก ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบ RT-PCR 2 ครั้ง ก่อนและหลังวันกักตัว แต่ต้องกักตัว 14 วัน สำหรับมาตรการนี้ใช้เกณฑ์เดียวกันกับทุกประเทศ ซึ่งจะเสนอกับทาง ศบค. ให้พิจารณาต่อไป

ประการที่ 5 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งได้มีการนำร่องไปแล้วหลายจังหวัด จากนี้จะมีการเปิดเพิ่มเติมเช่น จว.เพชรบุรี ชะอำ หัวหิน จะเริ่มนำร่องในเดือนตุลาคม ส่วนพื้นที่อื่นๆก็จะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนพฤศจิกายนต่อไป อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

ส่วนกระแสข่าวที่ประเทศไทยไม่ตอบสนอง ไม่ดำเนินการเรื่องเอกสารการบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากทางสหรัฐอเมริกา จนทำให้ไม่สามารถส่งวัคซีนมาให้ประเทศไทยได้อีกรอบนั้น ทาง สธ. ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง คาดว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน เนื่องจากว่าผู้ประสานงานหลักกระทรวงการต่างประเทศ และ สธ. ยังไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากหน่อยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube