fbpx
Home
|
ทั่วไป

ศบค.พบฉีดวัคซีน2เข็มยังเสี่ยงตายรอชัดRapidTest

Featured Image
ศบค. พบ ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส แต่ยังสามารถเป็นผู้ติดเชื้อ ผู้แพร่เชื้อ และอาจมีอาการทรุดลงหากป่วยหนักและเสียชีวิตได้ รอชัด Rapid Test หวัง ล็อกดาวน์ ยอดลดลง

 

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ระบุว่า ที่ประชุมในวันนี้มีการพูดคุยถึงแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งรองอธิบดีกรมการแพทย์ ได้เสนอสถานการณ์ล่าสุดพบว่าประชาชนยังคงมีความต้องการเตียงสูงมาก ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการพูดคุยถึงการทำ Home Isolation และ Community Isolation ซึ่งหลังจากนี้ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ด้วยอัตราผู้ติดเชื้อจำนวนมากมีผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงที่มีความต้องการเตียงอย่างเร่งด่วนเป็นจำนวนมาก จึงขอสงวนเตียงที่เหลือเพื่อรองรับผู้ที่มีความรุนแรงเข้าโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นในระดับชุมชนจะมีการจัดทีมเคลื่อนที่เร็วแบบเบ็ดเสร็จ หรือ CCRT หรือ Primary Care จำนวน 200 ทีม โดยจะมีบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรฝ่ายความมั่นคง บุคลากรของเขต ทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะมีหน้าที่ค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน เพื่อคัดกรองและแยกผู้ป่วยออกจากคนปกติได้อย่างรวดเร็ว จะให้การรักษาเบื้องต้น ให้ยา หากผู้ป่วยนั้นมีความต้องการที่จะต้องดูแลรักษา ก็จะมีการจัดสรรให้แยกกับที่บ้าน หากมีอาการอยู่ในกลุ่มสีเขียว หากมีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน จะให้อยู่ในสถานที่พักคอยในชุมชน หรือโรงพยาบาลสนามชุมชน และจะมีการติดตามเป็นระยะเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการที่อาจจะแย่ลงจะมีการส่งต่อประสานงานให้ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงการใช้ Rapid Antigen Test หรือที่เรียกกันว่า rapid Test ซึ่งทางการแพทย์มักจะใช้ในขณะที่จำเป็นฉุกเฉิน และรอนานไม่ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดการตรวจในลักษณะนี้มีความแม่นยำต่ำ จึงไม่แนะนำให้นำมาใช้ก่อนหน้านี้ แต่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป มีความต้องการการตรวจที่มากขึ้น การติดเชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หากต้องรอผลการติดเชื้อนาน 1-2 วัน อาจทำให้การควบคุมโรคไม่มีประสิทธิภาพ ทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขจึงมีการหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนในการนำและ rapid Test ที่มีมาตรฐานที่ยอมรับได้มาหารือกัน โดยในวันนี้เวลา 13:30 น.

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงนโยบายหรือทิศทางการใช้ rapid test โดยหลักการหากเริ่มติดเชื้อหรือติดเชื้อ หรือมีเชื้อไม่มาก ผลตรวจอาจออกมาเป็นลบ แต่ขอประชาชนอย่านิ่งนอนใจ จะต้องมีการเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในรายที่มีประวัติสัมผัสผู้ที่มีการติดเชื้อยืนยันก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีการสัมผัสเสี่ยงสูง และระหว่างที่เฝ้ารออาการจะต้องมีการแยกกักตัวเอง โดยสาธารณสุขแนะนำให้ตรวจซ้ำในวันที่ 5-7 โดยหากเป็นผู้ติดเชื้อ 5-7 วัน ปริมาณเชื้อจะมีจำนวนมาก การตรวจโดยวิธี antigen Test Kit ตรวจแล้วก็จะได้ผลแม่นยำมากกว่า ส่วนผู้ที่ตรวจแล้วผลเป็นบวกตั้งแต่ครั้งแรกขอให้เข้าระบบ โดยติดต่อไปยังเบอร์ 1330 และนำไปสู่การตรวจด้วยวิธีมาตรฐานเพื่อยืนยันการติดเชื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ปลอดภัย

ขณะที่ รายงานการฉีดวัคซีนประจำวันที่ 11 ก.ค.64 มีการฉีดเพิ่มขึ้น 100,025 โดส ทำให้ยอดรวม อยู่ที่ 12,569,213 โดส ซึ่งจากที่ผ่านมาในการกำหนดมาตรการจากนี้ทางศบค.ขอความร่วมมือให้หน่วยฉีดวัคซีนทั้งกทม. และปริมณฑล เร่งระดมการฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ซึ่งมีรายงานว่าสถานีกลางบางซื่อจะจัดให้มีการฉีดบุคคลทั่วไป โดยที่ผ่านมากทม. มีการระดมฉีดกว่า 6,000 รายต่อวันเป็นอย่างต่ำ ในกลุ่มผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และจะมีการเพิ่มจำนวนให้เร็วขึ้นและครอบคลุมกลุ่มผู้ติดเชื้อให้มากขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้

ส่วนการฉีดวัคซีนครบแล้ว อาจมีความเสี่ยงในการเป็นผู้ติดเชื้อ รวมไปถึงเสียชีวิต นั้น แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ในทางสาธารณสุข ระบุว่า ยังมีความเป็นไปได้ โดยมีข้อมูลจากทางสหรัฐอเมริกา มีรายงานใน Los Angeles มีจำนวนประชากรฉีดวัคซีนไปแล้ว 4.5 ล้านคน ครบทั้ง 2 เข็ม ซึ่งอัตราการติดเชื้อยังมีอยู่ แต่พบว่าเป็นจำนวนที่ติดเชื้อค่อนข้างต่ำ และพบการเสียชีวิต 20 คนหรือ 0.004% ซึ่งเป็นข้อมูลระบุว่าแม้ว่าการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส แต่ยังสามารถเป็นผู้ติดเชื้อ ผู้แพร่เชื้อ และอาจมีอาการทรุดลงหากป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ซึ่งจากรายงานระบุว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เป็นกลุ่มผู้เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ซึ่งจำเป็นต้องกดภูมิคุ้มกัน หรือคนไข้ที่อยู่ในดงเชื้อที่มีการระบาดกันอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายแพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า การใช้มาตรการเข้มข้นจะเริ่มในวันนี้และใช้ไปอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งคาดหวังว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตน่าจะมีแนวโน้มในทางที่ลดลง อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน รวมถึงให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรฝ่ายความมั่นคง ที่พยายามให้มาตรการที่ออกมานั้นใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube